โควิด – วันที่ 14 มิ.ย. ที่มัสยิดท่าอิฐ ต.ท่าอิฐ อ.เมือง จ.นนทบุรี ญาติและผู้ปกครองคนไทยที่อยู่ในประเทศอียิปต์ เดินทางเข้าพบนายปรีดา เชื้อผู้ดี นายกองค์การบริหารส่วนตำบล อบต.ท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นที่ปรึกษานายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี เพื่อยื่นหนังสือขอความช่วยเหลือไปยังรัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ให้ช่วยนำคนไทยมุสลิมและไทยพุทธ ที่ยังติดค้างอยู่ในประเทศอียิปต์เดินทางกลับประเทศไทยบ้านเกิด

โดยนายปรีดา ที่ปรึกษาจุฬาราชมนตรี กล่าวว่า เท่าที่มีการตรวจสอบพบว่าขณะนี้ยังมีคนไทยที่เป็นคนไทยมุสลิมและคนไทยพุทธ รวมทั้งนักศึกษาและบุคคลทั่วไป ยังคงติดค้างที่ประเทศอียิปต์กว่า 4,000 คน

ได้รับแจ้งว่ามีคนไทยเป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิด 19 จำนวน 38 ราย จากการสอบถามผู้ที่ตกค้างอยู่ในขณะนี้ทราบว่า คนไทยที่ติดเชื้อเข้าไปทำการรักษาที่โรงพยาบาลในประเทศอียิปต์ ก็จะได้รับการดูแลรักษาเพียงแค่ให้ยาพาราเซตามอลมากินเท่านั้นและให้กลับบ้านไปรักษาตัวที่บ้านหรือห้องพักแทน

โดยแพทย์เขาแนะนำว่าหากอยากหายให้เดินทางกลับไปรักษาตัวที่ประเทศไทยจะดีที่สุด เพราะแพทย์ของประเทศไทยมีความสามารถในการรักษา ทำให้คนไทยที่ตกค้างพยายามจะเดินทางกลับประเทศไทย แต่ติดตรงที่สายการบินขากลับนั้นเปิดให้เดินทางกลับได้แค่เที่ยวละ 200 คนต่อเดือนเท่านั้น ถ้าเป็นแบบนี้จะต้องใช้เวลานานกว่า 8 เดือนถึงจะเดินทางกลับได้หมด ทำให้มีคนไทยติดค้างอยู่ที่นี่ถึง 4,000 คน

ที่ปรึกษาจุฬาราชมนตรี กล่าวว่า อยากขอให้ทางรัฐบาลและผู้ที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือให้การเพิ่มเที่ยวบิน ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทางกลับประเทศนั้น ทางผู้ปกครองและญาติๆ จะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด ขอให้ได้เดินทางกลับบ้านได้ทันเวลาก็พอแล้ว

หลังจากที่ตนได้รับหนังสือร้องขอความช่วยเหลือแล้ว จะนำหนังสือยื่นผ่านไปยังสำนักจุฬาราชมนตรี เพื่อประสานไปยังรัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อขอให้ช่วยเร่งดำเนินการในเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน