ศบค.แถลงรายละเอียด ครอบครัวทูต ลูกสาวป่วยโควิด เจอข้อเป็นห่วงพาครอบครัวกักตัวคอนโด เร่งเข้าพื้นที่ ดำเนินการควบคุมตามมาตรการ
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 13 ก.ค. ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. เปิดเผยสถานการณ์ผู้ป่วยโควิด-19 ประจำวัน
ถึงเคสผู้ป่วยติดโควิด ซึ่งเดินทางมากับคณะทูตที่ได้รับการยกเว้นตามกฎหมาย โดยเป็นผู้ป่วยหญิงอายุ 9 ปี เดินทางจากแอฟริกา ซึ่งรายงานตัวเลขรวมแล้วเมื่อวันที่ 11 ก.ค.
โดยผู้ป่วยเดินทางเข้ามาพร้อมคณะทูต ครอบครัว 5 คน มีความสำคัญ คือออกเดินทางวันที่ 7 ก.ค. ตรวจเชื้อก่อนเดินทาง ที่ประเทศซูดาน ไม่พบเชื้อ เดินทางถึงประเทศไทยวันที่ 10 ก.ค. เวลาประมาณ 05.40 น. ผลคัดกรองไม่มีอาการ เก็บตัวอย่างตรวจพบเชื้อ บิดานำผู้ป่วยเข้าตรวจที่โรงพยาบาลเอกชน พบเชื้อเช่นกัน
แต่พบว่ามีการนำสมาชิกครอบครัวที่เหลือไปพำนักในคอนโดฯ ที่ กทม. วันที่ 11 ก.ค. โรงพยาบาลเอกชน พบผู้ป่วยปอดอักเสบ ได้ส่งตัวต่อไปยังโรงพยาบาลของรัฐ ประเด็นที่ ศบค.พูดคุยกัน พบว่า เป็นบุคคลในวงเล็บ 3 คือ คณะทูต บุคคลที่ได้รับการยกเว้น ซึ่งทำมาตั้งแต่ต้น
เมื่อเดินทางมาถึงให้เกียรติกัน ให้กักกันในพื้นที่ควบคุมดูแลของหน่วยงานต้นสังกัดไม่น้อยกว่า 14 วัน ซึ่งเห็นความไม่ตรงกันในแต่ละพื้นที่ เนื่องจากพบว่าไปพักที่คอนโดฯ ซึ่งต้องกำหนดรายละเอียดการกักตัวให้ละเอียดกว่านี้ ทั้งนี้ ทีมควบคุมสอบสวนโรคจะเข้าไปควบคุมคอนโดฯดังกล่าวต่อไป
“การกักกันในที่พำนักบุคคลดังกล่าวภายใต้การควบคุมของหน่วยงานต้นสังกัด ซึ่งหมายความว่าให้สถานทูตเป็นต้นสังกัด และเราเชื่อใจกัน เรื่องต่างๆ เหล่านี้ เราเข้าใจว่าสถานทูตจะมีพื้นที่อาณาบริเวณเป็นอาณานิคม พื้นที่ของท่านก็ให้เกียรติ พอมาเจอแบบนี้สถานที่พำนักกลายเป็นคอนโดขึ้นมา ก็ต้องกำชับกัน
มีการขอให้ร่วมกันรับผิดชอบอย่างดี อาจมีมาตรการมากขึ้น โดยกระทรวงการต่างประเทศจะทำความเข้าใจสถานทูตต่างๆ เพื่อขอความร่วมมือ เพื่อทำให้เกิดความเรียบร้อยมากขึ้น เรียนรู้ไปด้วยกันว่าต้องเป็นแบบนี้ 14 วันในสถานที่ของท่านโดยไม่ต้องออกมา แต่ไม่ต้องตกใจเพราะเคสนี้อาการไม่มาก” นพ.ทวีศิลป์กล่าว
