สธ.แถลงพบคนขับรถส่งสินค้าพม่าเข้าออกชายแดนแม่สอดติดโควิด 3 ราย พบ 2 รายแรกมาจากการคัดกรองคนขับรถเข้าออกด่าน ส่วนอีกรายคัดกรองในพื้นที่ชุมชน พร้อมเปิดไทม์ไลน์ รายแรกไปโกดังอาลีและโกดังสิงห์รุ่งเรือง อีกรายไปโกดังสิงห์รุ่งเรืองแห่งเดียว เข้าออกประเทศใน 7 ชั่วโมงตามกำหนด ชี้ความเสี่ยงน้อย เหตุใส่หน้ากาก มีคนฝั่งพม่าสัมผัส 100 คน กักตัวแล้วทั้งหมด ส่วนผู้สัมผัสฝั่งไทยคาดมีเป็นร้อยอยู่ระหว่างสอบสวนโรค ย้ำเป็นไปตามคาดการณ์
วันนี้ (11 ต.ค.63) นายธนิตพล ไชยนันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รักษาการอธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค และ นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป ร่วมกันแถลงข่าวกรณีพบพนักงานขับรถชาวพม่าติดเชื้อโควิด 19 ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก
นายธนิตพล กล่าวว่า สธ.ได้ยกระดับมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันควบคุมโรคโควิด 19 พื้นที่ชายแดนไทย-พม่า นับตั้งแต่มีรายงานการระบาดในพม่า ทั้งห้องปฏิบัติการ เวชภัณฑ์ จัดเครือข่าย อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และอาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าว (อสต.) ซึ่งการตรวจพบพนักงานขับรถขนส่งสินค้าชาวพม่าติดโควิด 19 กรมควบคุมโรคดำเนินการติดตามได้ภายใน 24 ชั่วโมง ถือว่าทันเหตุการณ์
นพ.โอภาส กล่าวว่า ส่วนกลางจะสนับสนุนทีมสอบสวนโรค รถตรวจเชื้อชีวนิรภัยพระราชทาน 3 คัน ชุดตรวจน้ำยา PCR จำนวน 1 พันชุด และชุดตรวจเลือดหาภูมิคุ้มกันหรือ Rapid Test จำนวน 2 พันชุด เพื่อช่วยควบคุมสถานการณ์ให้เร็วที่สุด ซึ่งกรณีนี้คล้ายกับกรณีทหารอียิปต์ที่มาระยอง ปัจจัยที่ทำให้ควบคุมสถานการณ์ได้เร็ว คือ การตรวจเชิงรุก และความร่วมมือของประชาชนในพื้นที่ ดังนั้น หากพบใครที่เข้าประเทศผิดกฎหมายขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ ซึ่งการนำชาวต่างชาติผิดกฎหมายเข้ามาในประเทศเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง ทั้งผิดกฎหมายและเสี่ยงนำเชื้อโรคเข้าประเทศไทย สำหรับประชาชนที่สงสัยว่าตนเองมีความเสี่ยงสามารถเข้ารับการตรวจหาเชื้อได้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
ไทม์ไลน์ของเหตุการณ์นี้
วันที่ 8 ต.ค. คัดกรองพนักงานขับรถส่งสินค้าเข้าออกประเทศไทย จำนวน 55 ราย ผลเป็นลบ
วันที่ 9 ต.ค. ตรวจอีก 60 คน พบผู้ติดเชื้อบวก 2 ราย เป็นคนขับรถชาวพม่า จึงส่งกลับไปรักษาที่ รพ.เมียวดี
วันที่ 10 ต.ค. ทีมสอบสวนโรคลงพื้นที่สอบสวนโรคที่มาขนส่งสินค้า พบเกี่ยวข้องกับโกดัง 2 แห่ง คือ โกดังอาลี และโกดังสิงห์รุ่งเรือง จึงเก็บตัวอย่างตรวจจากแรงงานในโกดังทั้ง 2 แห่งเพิ่มเติมจำนวน 74 ตัวอย่าง ผลเป็นลบ จำนวน 60 ราย เจอผลบวก 1 ราย เป็นคนขับรถชาวพม่าเช่นกัน ส่งตัวรักษา รพ.เมียวดี แล้ว
ดังนั้น จึงมี 3 รายที่ติดเชื้อจากการตรวจคัดกรองเชิงรุก โดยคนในพื้นที่ได้รับคำแนะนำดูแลป้องกันโรค คือต้องคงมาตรการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ เว้นระยะห่าง เพื่อป้องกันไม่ให้แพร่เชื้อต่อ ขณะที่ผู้สัมผัสฝั่งพม่าจำนวน 100 คน ได้เข้าสู่การกักกันแล้วจะมีการติดตามจนครบ 14 วัน ส่วนผู้สัมผัสฝั่งไทยของทั้ง 3 ราย ทีมในพื้นที่จะมีการสอบสวนโรคติดตามต่อ เบื้องต้นคาดว่าอาจมีประมาณหลักร้อยราย.
นพ.ธนรักษ์ กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่เกินความคาดหมาย ที่ สธ.พยายามบอกประชาชนมาตลอดว่า มีโอกาสพบผู้ป่วยในประเทศได้อีก สิ่งสำคัญ คือ ไม่ใช่พยายามป้องกันไม่ให้มีการติดเชื้อในประเทศเลย ซึ่งยากมากและเป็นไปไม่ได้ ที่ทำได้ คือ ป้องกันไม่ให้การพบผู้ป่วย 1-3 คน เป็นการแพร่ระบาดในประเทศ ซึ่งการเจอผู้ติดเชื้อ 3 คนที่เข้าออกตามชายแดน เป็นการติดเชื้อตั้งแต่อยู่ที่ฝั่งพม่า สิ่งที่ต้องทำ คือ ไม่ให้ติดเชื้อในคนไทยในพื้นที่ การทำงานเรื่องนี้ต้องการความร่วมมือร่วมใจจากทุกภาคส่วน
“สิ่งที่ต้องปฏิบัติตัวอย่างเคร่งครัด คือ การใส่หน้ากาก ออกจากบ้านเท่าที่จำเป็น หลีกเลี่ยงการไปในที่ชุมชน กินร้อน ใช้ช้อนกลางส่วนตัว ล้างมือบ่อยๆ รักษาระยะห่าง ก็จะผ่านเหตุการณ์ยุ่งยากซับซ้อนนี้ไปได้”
เมื่อถามถึงพฤติกรรมของคนขับรถตอนอยู่ในประเทศไทยเป็นอย่างไร มีการลงมาขนส่งสินค้าเองสัมผัสกับผู้คนหรือไม่ นายธนิตพล กล่าวว่า จากการสอบถามในพื้นที่ คนขับรถ จะให้ขับอย่างเดียวจริงๆ ไม่มีการลงมาขนส่งสินค้าเอง แต่อาจมีบ้างที่เข้าห้องน้ำ แต่มีมาตรการในพื้นที่รองรับ ไม่ว่าเข้าไปตรงไหนต้องใส่หน้ากาก หากไม่ใส่ไม่สามารถเข้าได้ ส่วนคนที่ติดตามมากับรถ จะมีเรื่องการขนของลง แต่เราพยายามไม่ให้มีการสัมผัสกันระหว่างคนขนของฝั่งไทยกับคนของต่างประเทศ
นพ.โสภณกล่าวว่า คนขับรถต่างชาติที่เข้ามา มีมาตรการคือสวมหน้ากาก ดูแลเรื่องทำความสะอาดป้องกันการแพร่เชื้อ ล้างมือบ่อยๆ และต้องเข้ามาไม่เกิน 7 ชั่วโมง ซึ่งรายแรกเดินทางเข้าไทย 2 รอบ โดยไปที่โกดังอาลี แยกขายปลาตลาดพาเจริญ และโกดังสิงห์รุ่งเรือง รอบเช้า 10.00 น. และรอบบ่าย 15.00 น. รายที่ 2 เดินทางเข้าไทย 1 รอบ โดยไปที่โกดังสิงห์รุ่งเรืองเพียงแห่งเดียว รอบเช้า 10.00 น. และออกจากด่าน 16.00 น. ถือว่าเข้ามาและกลับออกไปในเวลาที่กำหนด พฤติกรรมโอกาสแพร่เชื้อไม่มาก และยังไม่มีอาการป่วย แต่การสอบสวนโรคจะทำให้เข้าใจว่า ตอนอยู่ในไทย ช่วงส่งสินค้ามีใครใกล้ชิดมากน้อยแค่ไหน ซึ่งต้องรอการสอบสวนในพื้นที่
