สถานการณ์ โควิด รายใหม่ วันนี้ ศบค. รายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ ลดลงเหลือ 59 คน แต่ยังเป็นการติดเชื้อในประเทศ ห่วง กทม. ระบาดในชุมชน เหตุไม่เฝ้าระวังตัวเอง
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 20 ม.ค.64 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ทีมโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์ “โควิด” วันนี้ ว่า ผู้ป่วยใหม่วันนี้ 59 ราย แบ่งเป็นติดเชื้อในประเทศ 51 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 8 รายผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม 1 ราย สะสม 71 ราย โดยติดเชื้อสะสมทั้งหมด 12,653 ราย หายแล้ว 9,621 ราย
สำหรับ ผู้เสียชีวิต เป็นหญิงอายุ 48 ปี จ.ตาก อาชีพขับรถรับส่งแรงงานพม่าที่ด่านสะพานสอง อ.แม่สอด จ.ตาก เริ่มมีอาการ 16 ธ.ค.63 รับการตรวจ 21 ธ.ค. โดยวันที่ 22 ธ.ค. แพทย์วิเคราะห์ว่าเป็นคออักเสบ จนอาการไม่ดีขึ้น ตรวจอีกครั้ง พบติดโควิด วันที่ 27 ธ.ค. โดยอาการแย่ลงตามลำดับ และเสียชีวิตในวันที่ 18 ม.ค. ที่ผ่านมา
การค้นพบผู้ป่วยในชุมชน พบจากการเฝ้าระวังที่โรงพยาบาล และตรวจค้นจากการให้บริการเชิงรุก แนวโน้มพบว่าลดลง สถานการณ์ทรงตัว ทั้งนี้ กทม. 10 ราย สมุทรสาคร 7 ราย ราชบุรี 1 ราย สมุทรปราการ 3 ราย นครพนม 1 ราย อยุธยา 1 ราย ระยอง 3 ราย เป็นต้น
“การขอให้ประชาชนติดตามการแถลงข่าว ไทม์ไลน์ ว่า ผู้ติดเชื้อไปที่ไหนอย่างไรบ้าง เพื่อต้องการความร่วมมือจากประชาชน ซึ่งจะมีการระบุพื้นที่เสี่ยงที่ชัดเจน ถ้ามีแอพ หมอชนะ จะได้รับการแจ้งเตือนทันที สิ่งสำคัญ คือ เมื่อท่านได้รับรายงาน พื้นที่เสี่ยงขอให้เฝ้าระวังตัวเอง และรายงานตัวเพื่อขอรับการตรวจ เช่น กทม. ผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง ไม่เฝ้าระวังตัวเอง เดินทางไปไหนตามปกติ ทำให้ กทม. มีการติดเชื้อไปที่วงระบาดกลุ่มที่ 2 และ 3 ทำให้ติดเชื้อในชุมชนโดยไม่รู้ตัว กว่าจะรู้ตัวก็พบกลุ่มคลัสเตอร์ใหม่ต่อไปเรื่อยๆ ” พญ.อภิสมัย กล่าว
พญ.อภิสมัยกล่าวว่า จ.สมุทรสาครยังต้องเฝ้าระวังเชิงรุกอย่างเข้มข้น ทั้งโรงงาน สถานประกอบการ ซึ่งมีเป็นหมื่นแห่ง ชุมชน ตลาด ร้านอาหาร ร้านตัดผม สถานนวดแผนไทย โดยขอความร่วมมือจากโรงงาน ซึ่งเราไม่ได้ไปจับผิด แต่ไปดูแลเพื่อให้โรงงานปลอดภัย ผู้ยังไม่ติดเชื้อมาทำงานก็จะมั่นใจว่าปลอดภัย และตัวเลขจากค้นหาเชิงรุกช่วยให้ภาครัฐนำตัวเลขไปเตรียมการให้พร้อม ทั้งนี้ ภาพรวมสถานการณ์อยู่ในระดับคงตัว ทำให้ลงมาเป็น 0 ยังทำไม่ได้ แต่อย่าเพิ่งหมดกำลังใจ หลายกิจการเกิดความท้อแท้ สู้มาปีหนึ่งแล้วทำไมยังไม่ผ่านไป แต่ที่ทำดีอยู่แล้วในการป้องกันตนเองขอให้ทำอย่างเข้มงวด ไม่ว่าจะออกไปที่ไหน ป้องกันตนเองสม่ำเสมอ ส่วนมาตรการองค์กร ขอความร่วมมือกิจการ เน้นย้ำให้ความร่วมมือดูแลตัวเอง เวลามาทำงานสัมผัสใกล้ชิด ขอความร่วมมืออย่ารับประทานอาหารร่วมกัน เลี่ยงการชุมนุมมากๆ จะเกิดไม่ได้ถ้าแต่ละองค์กรไม่ปฏิบัติ
