คลัสเตอร์โต๊ะแชร์ มหาสารคาม ติดโควิดแล้ว 21 คน แพร่กระจาย 3 จังหวัด เร่งหากลุ่มเสี่ยงเพิ่ม รอผลตรวจอีก 1,672 คน ชี้เดินทางกระจายอย่าการ์ดตก

เมื่อวันที่ 3 ก.พ.64 ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค.ตอบข้อถามความคืบหน้าการสอบสวนโรคที่ จ.มหาสารคาม ว่า เรื่องดังกล่าวปลัดกระทรวงสาธารณสุขติดตามผ่านการประชุมทางไกลระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ร่วมกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมหาสารคามเพื่อให้รายงานเรื่องนี้โดยเฉพาะ

พบว่าคลัสเตอร์ของจังหวัดมหาสารคามขณะนี้รวมตัวเลขอยู่ที่ 21 ราย เป็นคนที่อยู่ใน จ.มหาสารคาม 17 ราย จ.ราชบุรี 3 ราย จ.ขอนแก่น 1 ราย ขณะนี้ได้ติดตามกลุ่มเสี่ยงสูงและกลุ่มเสี่ยง เพื่อค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกจำนวนทั้งหมด 4,149 ราย ปรากฏผลจำนวน 2,477 รายไม่พบเชื้อ รอผลอีก 1,672 ราย

และขณะนี้ได้ประกาศ อ.เมือง อ.กันทรวิชัย ให้เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด พร้อมปิดสถานที่เสี่ยงต่างๆ จำนวน 17 แห่ง ดังนั้น ขณะนี้หากใครพบว่าตัวเองเชื่อมโยงกับคลัสเตอร์จังหวัดมหาสารคาม แล้วมีอาการผิดปกติขอให้ไปพบแพทย์โดยเร็ว ซึ่งมีรายงานล่าสุดว่ามีแพทย์ท่านหนึ่งที่รับตรวจคนไข้ในกรณีนี้ มีการติดเชื้อด้วย 1 ราย

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ในที่ประชุม ศบค.พูดคุยกันว่าจะสื่อสารกับประชาชนว่าในเวลานี้ยังวางใจไม่ได้ เบาใจได้บ้างสำหรับคนอยู่ต่างจังหวัด สถานการณ์ขณะนี้พื้นที่สีแดงเข้มอยู่ที่ จ.สมุทรสาคร และกรุงเทพฯ ทั้ง 2 จังหวัดอยู่ใจกลางแผนที่ประเทศไทย สามารถเดินทางเชื่อมต่อไปยังจังหวัดอื่นได้หลากหลายมาก

ดังนั้น ขณะนี้เมื่อเวลาผ่านไปเราต้องค้นหาผู้ป่วยให้ได้โดยเร็ว อย่างไรก็ตามการค้นหาเคสจะต้องใช้งบประมาณ และสรรพกำลังบุคลากรทางการแพทย์จำนวนมาก จึงต้องวางยุทธศาสตร์ให้เกิดการสมดุลย์ระหว่างการสูญเสียด้านเศรษฐกิจ การลงเม็ดเงินงบประมาณเข้าไปเพื่อตรวจรายละ 2,000 บาทโดยประมาณ ถ้าตรวจหมื่นรายก็วันละ 20 ล้านบาท ไม่ใช่จำนวนเงินที่น้อย

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เราจะมีวิธีใดที่จะผสมผสานกันหลายๆ อย่าง สิ่งที่กระทรวงสาธารณสุขและศบค.ชุดเล็กต้องช่วยกันคิด และกำลังทำอยู่ขณะนี้เพื่อให้ได้รู้ขนาดและจำกัดวงเอาไว้ ดังนั้นต้องขอความร่วมมือประชาชน จ.สมุทรสาคร และกรุงเทพฯ ต้องพยายามดูแลตัวเองให้ดีที่สุด

เรามีตัวอย่าง จ.มหาสารคาม ทำให้เห็นภาพว่าโรคไปได้ทุกที่ ทั้ง 77 จังหวัดยังการ์ดตกไม่ได้ ยังต้องเข้มกันอยู่ทุกคน ถ้าเผลอเมื่อไหร่ไวรัสตัวนี้จะเข้าไปในทางเดินหายใจของเราได้ตลอดเวลา เราจึงต้องเรียนรู้ร่วมกันว่าตอนนี้งานเลี้ยงที่มีสุราร่วมด้วย และยังมีงานรื่นเริงต่างๆ เป็นความเสี่ยงทั้งสิ้น ทั้งโต๊ะแชร์ งานเลี้ยงวันเกิด

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ในส่วนกฎหมายที่จะบังคับใช้นั้น จะทำให้เราเรียนรู้ไปด้วยกัน แต่ไม่ใช่การยากที่จะนำกฎหมายไปบังคับเพื่อให้ใครต้องไปติดคุกติดตะราง แต่การบังคับใช้กฎหมาย เพื่อให้เราทุกคนอยู่ในกฎเกณฑ์เดียวกัน ใช้ชุดข้อมูลที่เป็นประโยชน์และเคารพกฎหมายซึ่งกันและกัน เราทำเพื่อให้คนอื่นปลอดภัย ไม่ได้ทำให้เพื่อเกรงกลัวกฎหมาย ศบค.อยากขอความร่วมมือมากกว่าการบังคับใช้กฎหมาย เพราะเราต้องยืนระยะตรงนี้ไปอีกนานระยะหนึ่ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน