อนุทิน มั่นใจ โควิด สมุทรสาคร แนวโน้มดีขึ้น หวังเร็วๆนี้จะได้ชื่นชมความสำเร็จ ยืนยันคำว่า กระจอก ถ้าเรารู้จักศัตรู รู้ธรรมชาติของมัน รู้วิธี จุดอ่อน ลั่นใช้ทุกวิธีผลักดันส่งวัคซีนให้ไทย หลังติดปัญหาขนส่ง

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

วันที่ 3 ก.พ.2564 ที่ รพ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยระหว่างลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์โรคโควิด 19 จ.สมุทรสาคร ว่า การควบคุมโรคใน จ.สมุทรสาคร มีแนวโน้มดีขึ้น แม้พบผู้ป่วยติดเชื้อละวันหลายร้อยคน ซึ่งมาจากการตรวจเชิงรุก เมื่อพบการติดเชื้อมีการล้อมกรอบเอาไว้ คัดแยกคนที่มีไข้และอาการ รวมถึงคนไทยเข้ารักษาในโรงพยาบาล

“เรามีความพร้อมทั้งโรงพยาบาลสมุทรสาคร โรงพยาบาลท่าฉลอม โรงพยาบาลบ้านแพ้ว และโรงพยาบาลกระทุ่มแบน ที่ใช้อาคารสร้างใหม่เป็น Cohort Ward มีอุปกรณ์ครบครัน ตรวจหาเชื้อได้เอง ส่วนแรงงานต่างชาติมีจำนวนเยอะ จัดเตรียมโรงพยาบาลสนามดูแลหลายพันเตียง คนที่เหลือให้อยู่ในโรงงานแห่งนั้นทำงานได้ตามปกติ เพื่อให้ไม่มีผลกระทบกับรายได้ แนวโน้มน่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ ผู้ที่อยู่ในสมุทรสาครยังขอให้รักษาพฤติกรรมนิวนอร์มัลต่อไป ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ พยายามอยู่ห่างจากชุมชนที่แออัด หรือไปร่วมสถานที่แออัด ทางที่ดีช่วยดูแลกันเอง อย่าหลีกเลี่ยงกฎหมาย ทำตามคำแนะนำสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เพื่อให้สถานการณ์กลับสู่ปกติ คาดว่าอีกไม่นาน ”

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ส่วนจังหวัดอื่นที่พบแบบประปรายเป็นสะเก็ดไฟจากสมุทรสาครก็ดับได้ทุกจุด การติดเชื้อกลุ่มก้อนต่างๆ ในโรงงาน ใช้การกักกันในโรงงาน (Factory Quarantine) ส่วนการประเมินว่าดีขึ้นหรือไม่ อย่าดูแค่ตัวเลข เพราะจะเล็งผิดเป้า แต่ต้องโฟกัสว่าคนติดกี่คนก็ตาม ห้ามหลุดออกจากสมุทรสาคร อยู่ในที่กักกันเพื่อควบคุมโรค แต่ละคนไม่เกิน 10 วันก็หายปกติ หรืออย่างการทำ Bubble and Seal ในโรงงานที่ให้ทำงานและกักตัวในพื้นที่ห้ามออกมาเลยนั้น วงรอบหนึ่งไม่เกิน 1 เดือนหลังพบเชื้อครบ 10 วันก็ออกมาได้ และให้กลับไปสังเกตอาการที่บ้านอีก 4 วัน พยายามแยกตัวใช้ชีวิตแบบนิวนอร์มัลอีก 2 สัปดาห์ก่อนไปทำงานตามปกติ

 

 โควิด อนุทิน

 

สำหรับวัคซีนโควิด 19 ตามแผนเดิมที่กำหนดไว้คือเดือนมิถุนายน แต่เราพยายามหาให้เร็วขึ้นเท่าที่เจรจาได้หรือซื้อเพิ่ม ส่วนปัญหาเรื่องการจัดส่งเราพยายามติดต่อเรื่องอนุญาตให้ส่งให้ประเทศไทยตลอด ทำทุกวิถีทางที่มีใช้ระบบทางการทูต ระบบหอการค้าต่างๆ ขอให้ช่วยกันผลักดันให้การส่งของมาให้เร็วที่สุด ขอให้รอ และมีความเชื่อว่าทุกอย่างจะมาในเดือนกุมภาพันธุ์นี้อยู่ เมื่อมาถึงแล้วจะเข้าสู่ระบบการบริหารจัดการต่อไป ทุกอย่างยังเป็นไปตามแผนอยู่

ส่วนอาการผู้ว่าราชการสมุทรสาคร ได้รับรายงานว่ามีอาการดีขึ้น ขอให้ท่านพักผ่อนอย่างเต็มที่ภายใต้การดูแลของแพทย์ ยังไม่อยากให้เยี่ยมเพราะอาจเกิดความวุ่นวาย ได้สอบถาม ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา ว่าอาการของผู้ว่าฯ เป็นอย่างไร ไหวหรือไม่ คณบดีบอกว่าท่านมีแผนจะนั่งรถพามาส่งที่ จ.สมุทรสาคร ด้วยตัวเอง ผมได้ยินก็ชื่นใจ ก็ขออธิษฐานให้ได้เกิดขึ้น”

นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า หวังว่าเร็วๆ นี้จะได้มาชื่นชมความสำเร็จที่ปราบโรคนี้อยู่หมัด ผมยืนยันคำว่า กระจอก เพราะถ้าเรารู้จักศัตรู รู้ธรรมชาติของมัน รู้วิธี จุดอ่อนของมัน รู้เขา แต่ไม่รู้เราเพราะไม่มีสมอง เราต้องปิดประตูตีแมวสู้ให้ได้ เราไม่ได้ก่อให้เกิดปัญหานี้ขึ้น เรื่องเกิดมาจากการกระทำผิดกฎหมาย คนทำถูกไม่มีปัญหาอะไรเลย ดูจากจังหวัดนี้ถ้าทุกคนบกพร่องหมด ถ้าเชื้อมีแสนยานุภาพต้องแดงทั้งหมดแล้ว แต่คนรักษาเนื้อตัวทำให้ยังมีพื้นที่สีเขียวสีเหลืองได้ เรารู้อยู่แล้วปัญหาคืออะไร เชื่อมั่นว่า ยังสามารถจัดการเชื้อโรคนี้ในระยะเวลาอันสมควร เราเชื่อว่าคุมสถานการณ์ได้

เมื่อถามถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายอนุทิน กล่าวว่า ขอฟังคำถามผู้อภิปรายก่อน ถามมาจะได้ตอบถูก จะตอบคำถามทุกข้อ มั่นใจความเป็น รมว.สาธารณสุขที่ทำร่วมกับทีมงาน เราทำเพื่อให้ประเทศไทยปลอดภัยมากที่สุด คนไทยปลอดเชื้อมากที่สุด ไม่มีวาระซ่อนเร้น พร้อมตอบคำถาม ขอให้ถามในกรอบ ถามด้วยใจเปิดกว้าง ไม่ใช่ถามเพื่อความสนุก ทำให้เสียหน้า ดิสเครดิต ถ้าเล่นมาในเกมตนก็พร้อมอยู่ในเกม มั่นใจว่าตอบคำถามได้ ถามให้ตรงคำตอบก็ยิ่งดี การอภิปรายไม่ทำให้เสียสมาธิในการทำงาน ใช้โอกาสนี้บอกสภาผู้แทนราษฎรทราบว่า กระทรวงสาธารณสุขทำอะไรในภาวะวิกฤตนี้

 

 โควิด อนุทิน

 

ด้านนพ.นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด(สสจ.)สมุทรสาคร กล่าวว่า จ.สมุทรสาคร มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ 700-800 รายต่อวันต่อเนื่องมา 7 วัน มาจากการค้นหาเชิงรุกวันละ 1 หมื่นราย ทำให้ยอดติดเชื้อสะสมในจังหวัดเกินหมื่นรายไปแล้ว ส่วนจากระบบเฝ้าระวังมีเพียงพันกว่ารายคิดเป็น 10% ส่วนการดูแลรักษาในโรงพยาบาลมี 10% เช่นกัน ส่วนที่เหลือไม่มีอาการดูแลในโรงพยาบาลสนาม มากกว่าครึ่งจำหน่ายออกหลังพ้นระยะแล้ว

“การค้นหาเชิงรุกทำแล้ว 1.4 แสนราย ค้นหาเกินเป้าที่กำหนดจาก 541 แห่ง ทำได้ 845 แห่ง โรงงานขนาดใหญ่มีคนมากกว่า 500 คน และโรงงานขนาดกลาง 200-500 คน ตรวจแล้วทั้งหมด โดยโรงงานที่อัตราติดเชื้อเกิน 10% พบ 14 แห่ง ทำให้ทราบโรงงานเป้าหมายที่ต้องควบคุมโรคด้วยมาตรการ Bubble and Seal ซึ่งตอนนี้มีหลายโรงงานแล้วที่ทำได้

คาดว่าอีก 2-3 วันผลการตรวจแลปจะออกมาครบทั้งหมด คาดว่าการติดเชื้อน่าจะลดลง และเห็นภาพพื้นที่ที่เป็นปัญหา ซึ่งเบื้องต้นพื้นที่ไม่ได้เป็นสีแดงทั้งหมด อย่าง อ.บ้านแพ้ว และกระทุ่มแบน ก็เป็นพื้นที่สีเขียวและเหลือง พบการติดเชื้อเบาบาง แต่เป็นสีแดงที่ อ.เมือง จากนี้การเฝ้าระวังเชิงรุกจะทำในพื้นที่เสี่ยงและโรงงานขนาดเล็กที่ยังไม่ครอบคลุม และเตรียมแผนมาตรการรองรับ “

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน