กก.ตลาดรถไฟ วอนเลิกบูลลี่แม่ค้าหมูอัมพวา หลังติด ‘โควิด’ ยันไม่ใช่คลัสเตอร์ เผยโทรคุยทุกวัน เครียดมาก ถูกกดดันหนัก เป็นเพียงผู้ติดเชื้อคนหนึ่งเท่านั้น

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

จากสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 ใน จ.สมุทรสาคร ที่ยังคงพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในทุกๆ วัน แม้ว่าจะพบยอดผู้ติดเชื้อลดน้อยลงในช่วงสัปดาห์นี้ หรือภายหลังจากที่กระบวนการตรวจหาเชื้อของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร ที่เรียกว่า ยุทธการทลายรังปลวก อ.เมืองสมุทรสาคร เสร็จสิ้นลงไปแล้วนั้น

ล่าสุดเวลา 09.30 น. วันที่ 9 ก.พ.64 รถพระราชทาน เก็บตัวอย่างชีวนิรภัย จำนวน 3 คัน ได้มาให้บริการตรวจหาเชื้อโควิด เชิงรุก ณ โรงเรียนเทศบาลวัดตึกมหาชยาราม ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ด้วยวิธีการ SWAB (เก็บสารคัดหลั่งในโพรงจมูก) ในกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่ค้าขายภายในตลาดสดเทศบาลนครสมุทรสาคร และประชาชนในพื้นที่รอบๆ บริเวณ โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ประมาณ 300 คน

ขณะเดียวกันในการตรวจหาเชื้อวันนี้ หนึ่งในผู้ที่นำแรงงานในตลาดสดมาเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิดด้วยก็คือ นายวินัย เชื่อมพิบูลย์ กรรมการตลาดรถไฟ จ.สมุทรสาคร ซึ่งก็ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวถึงสภาพโดยรวมของตลาดรถไฟในปัจจุบัน และยังได้แสดงความห่วงใยถึงแม่ค้าขายหมู ชาว จ.สมุทรสงคราม ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นคลัสเตอร์อัมพวา จนมีผู้ติดเชื้อหลายรายนั้นว่า ในส่วนของตลาดรถไฟ แม้ใครจะกล่าวหาว่า ตลาดรถไฟ จ.สมุทรสาคร เป็นแหล่งแพร่เชื้ออย่างไรก็ช่างเขา เราไปห้ามความคิดเขาไม่ได้ เราไปว่าเขาก็ไม่ได้

สิ่งสำคัญคือ เราต้องจัดการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นก่อน เพื่อแสดงให้เขาเห็นว่า ตลาดรถไฟของเราแม้จะพบผู้ติดเชื้อโควิด แต่เราก็สามารถบริหารจัดการตั้งแต่คัดกรองหาผู้ติดเชื้อ และนำเข้าสู่กระบวนการรักษา ซึ่งเรื่องของโรคโควิดนี้ คนภายนอกไม่ได้คิดแค่ว่ามีเฉพาะในตลาดรถไฟเท่านั้น แต่พวกเขาเหมาหมดแล้วว่าเป็นทั้ง จ.สมุทรสาคร ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่พวกเราทุกคนจะต้องแสดงความรับผิดชอบ ด้วยการทำให้สมุทรสาครของเราถูกปลดล็อกจากสถานการณ์โควิดนี้ให้ได้โดยเร็วที่สุด

ซึ่งก็ต้องเกิดจากความร่วมมือของทุกคน และตนในฐานะกรรมการตลาดรถไฟ ก็ขอยืนยันว่า พวกเราจะเดินหน้าทำตลาดรถไฟรูปแบบใหม่ ภายใต้มาตรการ New Normal ให้เห็นผลอย่างชัดเจน ตั้งแต่การเป็นตลาดสวมแมสก์ 100 เปอร์เซ็นต์ ไปจนถึงการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ซื้อ โดยเริ่มที่ตัวผู้ค้า เช่น การมีป้ายแสดงตัวตนของผู้ค้า ผู้ใช้แรงงาน (ลูกจ้าง) และป้ายรับรองมาตรฐานกับความปลอดภัยของแผงขายของ เป็นต้น ควบคู่ไปกับมาตรการความปลอดภัยทางสังคม

“ในส่วนของแม่ค้าขายหมู ชาว อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ที่มาเปิดร้านขายหมูอยู่ตลาดรถไฟ จ.สมุทรสาคร แล้วติดเชื้อโควิดรายนี้ ผมก็ได้โทรคุยให้กำลังใจกับเขาทุกวัน เพื่อสร้างกำลังใจให้เขาเนื่องจากเขาเครียดหนัก เพราะสังคมรอบข้างกดดันเขา กลัวเขา โดยไม่คำนึงถึงจิตใจของเขาเลย ทั้งๆ ที่จริงแล้วแม่ค้าคนนี้ เป็นเพียงผู้ไปรับซื้อหมูมาจาก จ.ราชบุรี แล้วนำมาขายที่เขียงหมู ซึ่งตั้งร้านอยู่ในตลาดรถไฟ จากนั้นตอนเย็นก็กลับไปนอนบ้านที่อัมพวา มีผู้ใกล้ชิดเสี่ยงสูงอยู่ร่วมกันทั้งหมด 4 คน แต่ตรวจแล้วพบติดเชื้อเพียงแค่ 2 คน คือ แม่ค้า กับ ลูกสะใภ้ ส่วนคนอื่นๆ ผลเป็นลบทั้งหมด” นายวินัย กล่าว

นายวินัย กล่าวต่อว่า ส่วนที่แม่ค้ารายนี้ถูกกล่าวหาว่าเป็นคลัสเตอร์ทำให้มีผู้ติดเชื้อในหลายๆ จังหวัดรวมกว่า 80 รายนั้น ขอยันยันว่าไม่เป็นความจริง แม่ค้ารายนี้ตนรู้จักเขาดี เขาเป็นเพียงแค่ผู้ติดเชื้อรายหนึ่งจากตลาดรถไฟเท่านั้น และความจริงแล้ว คนในครอบครัวของแม่ค้าก็มีแค่ 2 คนเท่านั้นที่เป็นโควิด ส่วนที่ตลาดรถไฟเองหลังจากที่มีการตรวจหาเชื้อโควิดรอบแรก ร่วมกับ ตลาดรถไฟ (หัวตลาด) และตลาดแม่พ่วงแล้ว ก็พบว่ามีผู้ติดเชื้อทั้งคนไทยและต่างด้าวอยู่ที่ประมาณ 90 กว่าคน ซึ่งทุกคนก็ได้เข้ารับการรักษาในศูนย์ห่วงใยคนสาคร ตามระบบทางการแพทย์และสาธารณสุขไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นายวินัย กล่าวทิ้งท้ายว่า ในขณะที่ทุกคนกำลังกลัวตลาดรถไฟ กำลังกลัว จ.สมุทรสาคร แต่นี่คือ แรงผลักดันสำคัญที่จะทำให้พวกเราได้ใช้วิกฤตินี้ให้เป็นโอกาส ด้วยการร่วมกันพัฒนาและปรับปรุงตลาดของเราให้ดียิ่งขึ้น และมีมาตรฐานที่ดีกว่าตลาดทั่วไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน