ศบค.จับตาโควิดระบาดกทม.เขตชั้นใน ผงะพบ 17 เขต 20 คลัสเตอร์ เฝ้าระวัง 393 แคมป์ก่อสร้าง รวม 6 หมื่นคนป้องกันแพร่เชื้อกระจายวงกว้าง

วันที่ 15 พ.ค. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) กล่าวว่า ที่ประชุมศูนย์บูรณาการแก้ไขปัญหาสถานการณ์โรคโควิด 19 กทม.และปริมณฑล มีการนำตัวเลขมาพิจารณา โดย กทม.วันนี้ติดเชื้อ 1,163 ราย การติดเชื้อยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมา 5 วัน ยอดสะสมระลอกใหม่อยู่ที่ 24,724 ราย หากรวมกับปริมณฑล 5 จังหวัด ยอดติดเชื้ออยู่ที่ 1,729 ราย สะสม 37,664 ราย ขณะที่ 71 จังหวัดรวมกันยอดลดลงเรื่อยๆ วันนี้ติดเชื้อ 436 ราย คิดเป็น 1 ต่อ 4 ของการติดเชื้อเท่านั้น

คลัสเตอร์ที่รายงานในที่ประชุม คือ คลัสเตอร์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พบรวม 105 ราย มาจากคลัสเตอร์ 6 คลัสเตอร์รวมกันในบริเวณนั้นซึ่งทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและเขตสุขภาพที่ 6 จะมีการให้ข้อมูลต่อไปในช่วงบ่าย

สำหรับการค้นหาเชิงรุกในเรือนจำ กทม. ยอดรวม 3,895 ราย ส่วนคนที่เดินเข้ามาตรวจใน รพ.ยังไม่ลดลง พบว่ามาจากชุมชนคลองเตย หลักสี่ สีลม สี่แยกมหานาค ปากคลองตลาด แฟลตดินแดง พื้นที่บางแคห้างสรรพสินค้า ชุมชนใกล้เคียง และซอยเพชรบุรี 5 , 6 ทั้งนี้ นายกฯมอบหมายให้ 50 เขตไปดูพื้นที่ จะเห็นว่าจากการแบ่งตามความชุกต่อพันคน เขตต่างๆ มีความเข้มข้นต่างกันไป ส่วนใหญ่กระจุกตัวใน กทม.ชั้นใน ทั้งปทุมวัน คลองเตย ห้วยขวาง ป้อมปราศัตรูพ่าย ดุสิต ดินแดง ราชเทวี วัฒนา การกระจุกตัวของคนก็มาก ทั้งเชิงพักอาศัยและการประกอบการ แออัดกันอยู่ตรงนี้

“โดยสรุปเขตที่มีปัญหามีทั้งหมด 17 เขต 27 คลัสเตอร์ ได้แก่ ดินแดง วัฒนา คลองเตย หลักสี่ ลาดพร้าว ราชเทวีร พระนคร ดุสิต ป้อมปราบศัตรูพ่าย สวนหลวง ปทุมวัน สาทร สัมพันธวงศ์ จตุจักร สีลม ประเวศ และวังทองหลาง กำลังสอบสวนควบคุมโรคหรือการระบาดยังมีอยู่ 20 คลัสเตอร์ และปิดคลัสเตอร์ได้แล้ว 7 คลัสเตอร์ จึงต้องแจ้งข้อมูลให้ประชาชนทั้ง 17 เขตทราบ ขอให้ร่วมมือกับเขตในการควบคุมโรค” นพ.ทวีศิลป์กล่าว

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า มีการประเมินว่า เขตที่มีการระบาดมากและเพิ่มขึ้นเร็ว คือ ป้อมปราบศัตรูพ่าย ดุสิต ปทุมวัน ราชเทวี คลองเตย ลาดพร้าว เป็นต้น ส่วนคลัสเตอร์ที่ต้องเฝ้าระวังสูงสุด คือ แคมป์ก่อสร้างที่หลักสี่ ติดเชื้อถึง 21.99% ทั้งความแออัด ความหลากหลายเชื้อชาติ อาจเป็นแหล่งระบาดกลุ่มก้อนใหญ่ รองปลัด กทม.รายงานว่า ข้อมูลล่าสุดปลายปี 63 มีคนงานในแคมป์ก่อสร้างประมาณ 6 หมื่นคน จาก 393 แคมป์ที่กระจายใน 50 เขต กทม. เป็นคนไทย 24,612 คน และต่างชาติ 34,600 คน เมื่อเจอการติดเชื้อ ถ้าเป็นต่างชาติก็ดึงออกมา อย่างสมุทรสาครมีพื้นที่หนึ่งก็ช่วยรับไปด้วย เพราะมีล่ามพูดภาษาเดียวกับเขา ต้องหาพื้นที่เฉพาะให้ได้อยู่

สำหรับคลัสเตอร์ที่เฝ้าระวัง มีแคมป์ก่อสร้างที่เขตวัฒนา เจอ 14.25% ส่วนคลัสเตอร์ที่พบใหม่ คือ 1.ราชเทวี ชุมชนริมคลองสามเสน แฟลตรถไฟมักกะสัน 2.เขตประเวศ ตลาดบุญเรือง 3.เขตบางรัก สีลม 4.เขตทวีวัฒนา ชุมชนแออัด พบ 15.23% และ 5.เขตสวนหลวง ร้านเฟอร์นิเจอร์ วันที่ 13 พ.ค. กทม.ส่งผลของจุดตรวจ 6 แห่ง ตรวจ 6,693 ราย พบติดเชื้อ 285 ราย คิดเป็น 4.26% ในที่ประชุมจึงมอบให้ กทม.แจ้งไปยังสำนักงานเขตทุกแห่งรายงานผู้ที่อยู่ในแคมป์คนงานมีกลุ่มเสี่ยงต้องรายงาน กทม.เข้ามาศูนย์บูรณาการฯ และแจ้งผู้ประกอบการและแรงงานที่เกือบ 6 หมื่นคน เข้มงวดกวดขันดูแลคน ความเป็นอยู่ สถานที่ โครงสร้าง พฤติกรรมส่วนตัว อย่างที่คับแคบ ดื่มกินนอนในที่จำกัด การกระจายเชื้อเกิดขึ้น การไม่ระวังสุขอนามัยส่วนตัว

“คำแนะนำป้องกันโควิดในที่ก่อสร้าง ซึ่งกรมควบคุมโรคและ กทม.รับทราบไปกำกับอย่างดี มาตรการต้องขึงให้ตึงเข้มงวดเต็มที่ ขอความร่วมมือ 6 หมื่นกว่าคนโดยประมาณการต้องได้รับการดูแลอย่างดี มิเช่นนั้นการแพร่เชื้อจะแพร่ออกไป ขอผู้ดูแลคนในปกครองของท่าน แคมป์คนงานทั้งหลาย ช่วยสอดส่องดูแลและป้องกันเชื้อได้ดียิ่งขึ้น” นพ.ทวีศิลป์กล่าว

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ประธานที่ปรึกษาของ ศบค. เสนอให้มีศูนย์ข้อมูลบริหารจัดการเรื่องเตียง น่าจะต้องเป็นศูนย์เอราวัณเป็นวันสต๊อปเซอร์วิสจุดเดียว ทำหน้าที่คือรับ ส่วนศูนย์คัดแยกผู้ป่วยสีเขียวเหลืองแดง คิดว่ามี 3 เซ็นเตอร์ที่น่าจะทำได้ คือ ศูนย์รับส่งต่อนิมิบุตร รพ.สนามบางขุนเทียน และ รพ.บุษราคัม จะต้องมีรองปลัด กทม. 1 คนกำกับดูแล คือ พญ.วันทนีย์ วัฒนะ รองปลัด กทม. เพื่อดึงเอาคนที่พบว่าป่วยรีบเข้ารับการรักษาโดยเร็วที่สุด สำคัญคือเอกซเรย์ตรงนั้น ตอนนี้เทคโนโลยีไม่ต้องให้หมออ่าน ส่งฟิล์มเข้าเอไออ่านโดยเครื่องเลยว่าคนนี้ปอดอักเสบ เยอะแล้วต้องได้รับยาแล้วแยกออกมาทันที นี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน