ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) เปิด 8 ขั้นตอนคุมโควิดแคมป์ก่อสร้างอิตาเลียนไทย หลังพบติดเชื้อสูง 83% ติดตามอีก 11 บริษัทรับเหมา
วันที่ 17 พ.ค.64 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) กล่าวว่า สำนักอนามัย กทม.รายงานว่า ตอนนี้การติดเชื้ออยู่ใน กทม.ชั้นในและบริเวณขอบที่มีการติดเชื้อสูงกว่า 6 ต่อพันประชากร คือ หลักสี่ ป้อมปราบศัตรูพ่าย ราชเทวี คลองเตย และห้วยขวาง
ทั้งนี้ กทม.รวมประชากรแฝงแล้ว มีเกือบ 10 ล้านคน ต้องทำให้เขต ประชาชน และผู้ประกอบการตระหนักรู้ โดยแบ่เป็น 4 เขต คือ 1.เขตที่มีปริมาณระบาดมากและเพิ่มขึ้นเร็ว มี 25 เขต 2.ปริมาณระบาดมาก แต่เพิ่มช้า มี 6 เขต 3.ปริมาณระบาดไม่มาก แต่เพิ่มขึ้นเร็ว 17 เขต และ 4.ระบาดไม่มาก และเพิ่มขึ้นช้ามี 2 เขต
“กทม.รายงานว่า ตอนนี้ที่แอคทีฟมี 28 คลัสเตอร์ ใน 19 เขต ได้แก่ ดินแดง วัฒนา คลองเตย หลักสี่ ลาดพร้าว ราชเทวี พระนคร ป้อมปราบศัตรูพ่าย สวนหลวง ปทุมวัน สาทร สัมพันธวงศ์ จตุจักร บางรัก ประเวศ วังทองหลาง รามคำแหง บางกอกน้อย และห้วยขวาง
โดยติดเชื้อสูงสุด 5 อันดับแรก คือ แคมป์ก่อสร้าง เขตหลักสี่, แฟลตดินแดง, ตลาดห้วยขวาง เขตดินแดง, คลองถมเซ็นเตอร์ และวงเวียน 22 กรกฎา เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย และแคมป์คนงานก่อสร้าง เขตวัฒนา” นพ.ทวีศิลป์
ขณะนี้มีการทำค้นหาเชิงรุกทั่ว กทม. โดยวันที่ 15 พ.ค. ตรวจ 5,642 ราย ติดเชื้อ 371 ราย คิดเป็น 6.58% หรือ 100 คน ติดเกือบ 7 คน ที่ประชุมหารือถึงกรณีการติดเชื้อในแคมป์ก่อสร้างที่หลักสี่ของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ตอนนี้ติดเชื้อ 885 ราย จากคนงาน 1,667 คน ซึ่งมีการอยู่อย่างแออัด และมีบริษัทรับเหมาต่อเนื่องจากการก่อสร้างงานนี้อีก 11 บริษัทและอื่นๆ อีกที่กำลังติดตาม
สำหรับแคมป์อื่นๆ อีก 8 แคมป์ บริษัทอื่นๆ ที่กระจายตัวก็ต้องหาข้อมูลต่อ นอกจากแคมป์ก่อสร้างหลักสี่ ยังมีชุมชนรอบข้างที่เกิดการติดเชื้อจำนวนมาก อีก 6 ชุมชน คือ ชุมชนแฟลตตำรวจสิระ 214 คน, ชุมชนอยู่แล้วรวย 360 คน, ชุมชนแฟลตตำรวจส่วนกลาง 3,300 คน, ชุมชนกองบัญชาการศึกษาฯ 750 คน, ชุมชนคนรักถิ่น 490 คน และชุมชนเปรมสุขสันต์ 804 คน รวม 6,118 คน
“ที่ต้องสื่อสารโดยเร็วเพราะระบบราชการอาจต้องใช้เวลาพอสมควร และยังมีระบบของ กทม.ที่ซับซ้อน ประธานชุมชนต่างๆ เหล่านี้เป็นบุคคลสำคัญในการรวบรวมความสามารถคนในชุมชน ช่วยกันดูแลความสะอาดสิ่งต่างๆ รอบตัว ดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลด้วย ขอช่วยกันเต็มที่ และแคมป์คนงานถูกจำกัดพื้นที่ ห้ามเคลื่อนย้าย ฝ่ายมั่นคงก็ช่วยกันเข้าไปดู ขอความร่วมมือคนงานบริเวณนั้นอาจไม่สุขสบาย ขอให้เสียสละช่วงเวลาหนึ่งของชีวิตเพื่อช่วยทั้งตัวเองและคนอื่น ให้ความร่วมมือกับภาครัฐ” นพ.ทวีศิลป์กล่าว
สำหรับมาตรการควบคุมโรคแคมป์ก่อสร้างอิตาเลียนไทย คือ 1.การเฝ้าระวังในแคมป์ 2.การแยกกักผู้ป่วย 3.การกักันผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 4.การฝ้าระวังนอกแคมป์ 5.ซีลแคมป์ก่อสร้าง 6.การจัดการสิ่งแวดล้อมในแคมป์ 7.การบริหารวัคซีนในพื้นที่ระบาด
และ 8.ติดตามบริษัทเราเหมาซับคอนแทคอีก 11 บริษัท ขอให้แจ้งรายงานแจ้งรับทราบและร่วมกับสำนักงานเขต สำนักอนามัย เพื่อเสนอตัวเข้าไปร่วมด้วยช่วยกัน เพราะต้องติดตามคนของท่าน เพื่อความปลอดภัย หากไปรับงานอื่นที่ไหนจะได้ช่วยกันติดตาม
