เอกชน-อบจ.ตรัง ควักเงิน จองซื้อวัคซีน หวังฉีดให้ได้5หมื่นราย ก่อนเปิดเทอม
เมื่อวันที่ 31 พ.ค. 2564 นายแพทย์ตุลกานต์ มักคุ้น โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จังหวัดตรัง แถลงข่าวว่า วันนี้จังหวัดตรังมีผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่เพิ่มถึง 76 ราย เป็นคนไทย 46 ราย และเมียนมา 27 ราย สูงเป็นลำดับ 1 ของภาคใต้ และลำดับ 7 ของประเทศ
โดยผู้ป่วยล่าสุดในวันนี้ มาจากคลัสเตอร์โรงงานเพิ่มอีก 61 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสมทะลุกว่า 100 รายแล้ว รวมทั้งคลัสเตอร์ร้านกาแฟภาสินี ซึ่งวันนี้พบผู้ป่วยเพิ่ม 3 ราย คลัสเตอร์ผู้ต้องขัง 1 ราย และอยู่ระหว่างสืบสวนโรค 11 ราย
ในขณะที่รักษาหายวันนี้ 3 ราย รักษาหายสะสม 286 ราย คิดเป็นร้อยละ 57 รวมมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมในการระบาดรอบเดือนเมษายน 2564 จำนวน 501 ราย
สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ในวันนี้ ส่วนใหญ่มาจากคลัสเตอร์บริษัทศรีตรังโกลฟ โรงงานผลิตถุงมือยางทางการแพทย์ โดยขณะนี้ทำการ Swab ไปครบแล้วทั้ง 1,579 ราย แต่ผลการตรวจหาเชื้อออกมาจำนวน 700 คน พบติดเชื้อรวมทั้งหมด 117 ราย เป็นแรงงานข้ามชาติ สัญชาติเมียนมา 35 ราย แรงงานไทย 82 ราย
คงเหลือยังต้องรอลุ้นผลอีกกว่า 800 ราย ซึ่งจะทราบผลในวันอังคารและพุธนี้ หลังจากนั้นจะเร่งค้นหาผู้สัมผัสผู้ป่วยยืนยันต่อไปในครอบครัว และชุมชน โดยทางแพทย์ยืนยันว่าผลการพบผู้ติดเชื้อในโรงงานถุงมือยางในครั้งนี้ ถือว่าติดในอัตราที่น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก คือ พบเพียงประมาณ 15% ของจำนวนแรงงานเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้โรงงานอุตสาหกรรมในจังหวัดตรัง ที่มีจำนวน 42 แห่ง ได้พร้อมใจกันควักเงินจัดซื้อวัคซีนซิโนฟาร์มจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เพื่อฉีดให้แก่คนงานตนเองที่มีรวมกว่า 12,000 คน เป็นการช่วยลดความเสี่ยงติดเชื้อในอนาคต และป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับธุรกิจ
เช่นเดียวกับทางจังหวัดตรัง นำโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง เตรียมอนุมัติงบประมาณจำนวน 80 ล้านบาท จัดซื้อวัคซีนซิโนฟาร์มฉีดให้แก่ประชาชนชาวตรัง ในส่วนของเจ้าหน้าที่ด่านหน้า และบุคลากรทางการศึกษาก่อนเป็นลำดับแรก รวมจำนวน 40,000 ราย
ทั้งนี้ ทั้ง 2 ภาคส่วนคาดจะได้วัคซีนภายในเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อจะเร่งฉีดให้แก่คนงานภาคอุตสาหกรรม และฉีดให้บุคลากรทางการศึกษาทันก่อนเปิดภาคเรียนที่ 1 นี้
