จากกรณีที่ จ.เลย ตรวจพบผู้ป่วยโควิด-19 เชื่อมโยงกับคลัสเตอร์หลักสี่ โดยพบว่าจากการตรวจวิเคราะห์เป็นเชื้อสายพันธุ์อินเดียนั้น

เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. นายปรีดา วรหาร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเลย เปิดเผยว่าตรวจพบผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์เดลตา ( อินเดีย) เป็นครั้งแรกในจังหวัดเลย ซึ่งเป็นผู้ป่วยรายที่ 79 หญิงไทย อายุ 24 ปี อาชีพแม่บ้าน และผู้ป่วยรายที่ 85 ทารกหญิง อายุ 2 เดือน ลูกสาวของผู้ป่วยรายที่ 79 ซึ่งมีประวัติมาจากแคมป์งานก่อสร้าง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ กลับภูมิลำเนาที่บ้านหนองทุ่ม ต.นาดินดำ อ.เมืองเลย เมื่อวันที่ 12 พ.ค.64

จากการสุ่มตรวจกลุ่มเสี่ยงสูงภายในครอบครัวเดียวกันที่โดยสารรถยนต์มาด้วยกัน ติดเชื้อทั้งหมดรวม 5 คน ขณะนี้ผู้ป่วยทั้งหมด รักษาหายออกจากโรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค.64 และกลับไปกักตัว สังเกตอาการที่บ้านอีก 14 วัน

จังหวัดได้เฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เพราะสายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) มีการแพร่ระบาดได้เร็วกว่าสายพันธุ์อัลฟา (อังกฤษ) จะเห็นได้ว่า คนในครอบครัวที่นั่งรถมาด้วยกัน ติดเชื้อทั้งหมด สายพันธุ์ส่วนใหญ่พบการแพร่ระบาดในพื้นที่ที่มีการฉีดวัคซีนน้อย

ด้านนายบุญเทิน จันทะมาตย์ สาธารณสุขอำเภอเมืองเลย กล่าวว่า การสอบสวนโรคในกลุ่มครอบครัวผู้ติดเชื้อจากแคมป์คนงาน ที่เดินทางกลับบ้านที่จังหวัดเลย เดินทางเข้ามาจังหวัดเลยเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2564 ตรวจเชื้อวันที่ 14 พฤษภาคม 2564 แล้วพบเชื้อ ทางพื้นที่ได้ดำเนินการเข้าควบคุม โดยทีมสอบสวนโรคได้ออกปฏิบัติงานตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคม 2564 ใช้หลักการทำงานค้นให้เร็ว รีบแยกผู้ป่วยมารักษา และค้นหาผู้สัมผัสเสี่ยงให้เพิ่มมากขึ้น โดยภาพรวมการค้นหาผู้สัมผัสเสี่ยงของผู้ป่วยทั้ง 5 รายที่เดินทางโดยรถยนต์คันเดียวกัน พบว่าพบว่ามีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 13 ราย สัมผัสเสี่ยงต่ำ 13 ราย รวม 26 ราย ขอยืนยันว่าทีมสอบสวนโรคในพื้นที่ได้ควบคุม ค้นหาผู้สัมผัสเสี่ยงให้มากและครอบคลุมมากที่สุด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน