ซ้ำเติมทุกข์ บช.น.สั่งสอบ เรียกเก็บเงินดำเนินการศพโควิด 1.7 หมื่นบาท เผยตำรวจร่วมกับกทม.-สาธารณสุข จัดชุดช่วยคัดแยกผู้ป่วยตามบ้าน

เมื่อวันที่ 25 ก.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น./โฆษก บช.น. เปิดเผยถึงกรณีที่โฆษกกระทรวงกลาโหมให้ตำรวจเร่งเสริมกำลังลงพื้นที่ร่วมกับทหาร กรุงเทพมหานคร และสาธารณสุข ในการคัดแยกผู้ป่วยตามบ้านในชุมชน 50 เขตของกรุงเทพมหานคร ว่า ตำรวจนครบาลเตรียมกำลังซึ่งเป็นชุดสายตรวจที่ทำงานลงพื้นที่ร่วมกับสาธารณสุขอยู่แล้ว จำนวน 18 ชุด รวม 90 นาย

โดยเน้นสนับสนุนเรื่องการดูแลความปลอดภัย ให้ชุดทำงานของกระทรวงสาธารณสุขปฏิบัติงานไปด้วยความสงบเรียบร้อย ในส่วนการสนับสนุนงานศูนย์เคลื่อนย้ายผู้ป่วยนั้น พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มีนโยบายให้ตำรวจที่ว่างเว้นจากภารกิจ หรือมีจิตอาสา อาจเข้ามาช่วยงงานเคลื่อนย้ายผู้ป่วยด้วย ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสำรวจจำนวนและภารกิจต่างๆ

เมื่อถามถึงกรณีมีสื่อนำข้อมูลว่า มีการเรียกเก็บเงินดำเนินการศพโควิด-19 ในพื้นที่ สน.ท่าข้าม สูงถึง 17,000 บาท นั้น พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า จะสั่งการให้ตำรวจตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว เพราะตามปกติการเก็บศพผู้เสียชีวิตจะไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ต้องดูรายละเอียดอีกครั้งว่า เป็นค่าดำเนินการในส่วนใด และสูงเกินไปหรือไม่ อย่างไรก็ตาม หากประชาชนท่านใดถูกเรียกเก็บเงินค่าดำเนินการ และสงสัยว่าสูงเกินความเป็นจริง ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ตอนนี้ สามารถแจ้งตำรวจเพื่อให้ตรวจสอบได้

ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีกำชับเรื่องห้ามมีคนป่วยหรือคนตาย ที่ริมทางนอกเคหะสถาน ว่า เมื่อมีการระบุว่าผู้เสียชีวิตมีความเสี่ยงหรือเป็นผู้ติดเชื้อโควิด 19 ขั้นตอนการดำเนินการจะมีขั้นตอนการสอบสวนโรค และการควบคุมโรคเพิ่มมากขึ้น อาจจะทำให้มีเวลาในการดำเนินการที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งปัญหาเกี่ยวกับข้อจำกัดในเรื่องที่ต้องให้มูลนิธิที่เป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานเข้ามาดำเนินการ และมีกำลังพลที่น้อย ทำให้การดำเนินการยิ่งช้าลงไปอีก แต่ก็จะนำไปพิจารณาอีกครั้ง

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน