สธ.แจงดับนิวไฮ 312 ราย ชี้เป็นข้อมูลตกหล่น 100 ราย สิ้นใจคาบ้านอีก 3 ราย เสียใจเวรเปลรพ.แม่สอดเสียชีวิต ย้ำต้องป้องกันตนเองตลอดเวลา

เมื่อวันที่ 18 ส.ค.64 นพ.เฉวตสรร นามวาท ผอ.กองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์โควิดว่า วันนี้ประเทศไทยติดเชื้อ 20,515 ราย หายป่วย 22,682 ราย ถือว่าสูงกว่าการติดเชื้อใหม่ เป็นสัญญาณที่ดีในระบบที่รองรับผู้ติดเชื้อ เพราะใช้มาตรการแยกกักที่บ้านในคนอาการน้อยหรือไม่มีอาการ

ส่วนเสียชีวิตวันนี้สูงสุด 312 ราย หลายคนที่ติดตามสถานการณ์ต่อเนื่อง อาจตกใจกับตัวเลข ซึ่งตามปกติจะมีการตรวจสอบระบบเป็นระยะ เนื่องจากบางครั้งมีข้อมูลตกหล่น ไม่ใช่เพิ่งเสียชีวิตเมื่อวาน อาจจะมีความช้า 2-3 วัน หลายกรณีไม่ได้เจ็บป่วยเข้ารพ. แต่เสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุ มีการชันสูตรส่งตรวจกว่าจะสรุปว่าเป็นโควิดก็ใช้เวลา

“ข้อมูลจากกองระบาดวิทยาพบว่า 312 ราย มีการตกหล่น 100 ราย ยอดเสียชีวิตที่ไม่รวมตกหล่นอยู่ที่ 212 ราย ส่วนที่ตกหล่นข้อมูลมาจากหลายจังหวัดเกือบ 20 จังหวัด พบเป็นข้อมูลย้อนหลังถึง เม.ย.-ก่อน ส.ค. ประมาณ 50 ราย และเป็นข้อมูลการเสียชีวิต ส.ค.ถึงปัจจุบันอีก 50 ราย ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่ระบบต้องมีการประเมินปรับปรุงเป็นรอบๆ ตลอดเวลา” นพ.เฉวตสรรกล่าว

สำหรับผู้เสียชีวิต 312 ราย มาจาก กทม. 78 ราย ปริมณฑล 70 ราย ภาคใต้ 16 ราย ภาคอีสาน 37 ราย ภาคเหนือ 27 ราย ภาคกลาง 84 ราย เป็นชาย 174 ราย หญิง 138 ราย อายุ 28-102 ปี อายุกลาง 65 ปี ส่วนใหญ่คือผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 62% อายุน้อยกว่า 60 ปี มี7 โรคเรื้อรัง 24% อายุน้อยกว่า 60 ปี ไม่มีโรคเรื้อรัง 13%

เรื่องน่าเสียใจที่บุคลากรด่านหน้าสูญเสียอีกท่าน คือ เวรเปล รพ.แม่สอด มีโรคประจำตัวและยังไม่ได้รับวัคซีน ต้องแสดงความเสียใจต่อครอบครัวและเพื่อนร่วมงานด้วย พบการเสียชีวิตที่บ้าน 3 รายจากลพบุรี เมื่อดูประวัติการรับวัคซีนพบว่า ไม่เคยรับวัคซีน 147 ราย คิดเป็น 47% รับวัคซีนเข็มเดียว 33 ราย ซึ่งการจะหวังผลวัคซีนป้องกันเสียชีวิตและลดป่วยหนัก ต้องฉีดครบสูตรที่กำหนดแล้ว 14 วัน จึงเกิดภูมิเพียงพอได้ผลเต็มที่ และยังอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูล 132 ราย คิดเป็น 42%

“หากตัดส่วนรอตรวจสอบข้อมูล ทั้งหมดที่เสียชีวิต ไม่ได้มีการฉีดวัคซีนเลยหรือฉีดไม่ครบ และย้ำว่าวัคซีนทุกตัว ทั้ง mRNA ไวรัลเวคเตอร์ หรือเชื้อตาย ทุกชนิดฉีดแล้วมีโอกาสติดเชื้อได้ เพราะไม่ได้ป้องกันติดเชื้อ 100% แต่การป้องกันเสียชีวิตเกือบ 100% อย่างไรก็ตาม เมื่อดูแลคนในวงกว้างก็อาจพบมีการเสียชีวิตได้ แต่ขอย้ำความสำคัญ คนกลุ่มเสี่ยงโรคเรื้อรังต่างๆ คนสูงอายุ ควรเข้ารับการฉีดวัคซีน ข้อมูลทางวิชาการมีความปลอดภัยและมีประสิทธิผล” นพ.เฉวตสรรกล่าว

นพ.เฉวตสรรกล่าวว่า เรื่องสำคัญที่ต้องย้ำ คือ ขอให้ป้องกันติดเชื้อโควิดตลอดเวลาหรือแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention) ใจเราต้องตื่นรู้ตลอด ระมัดระวังป้องกันตนเองตลอดทุกคน ทั้งบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ ประชาชนทั่วไป แม้จะรู้สึกว่ายังไม่มีความเสี่ยง ให้คิดเสมอว่าคนรอบตัว ไม่ว่าจะสนิทหรือไม่สนิทอาจมีเชื้อแฝงอยู่ การป้องกันเต็มที่ของเราจะช่วยให้เราปลอดภัยไม่ติดเชื้อ และคิดเสมอว่า ตัวเราอาจรับเชื้อมาโดยไม่รู้ตัว อาจติดเชื้อแฝงอยู่ การป้องกันเต็มที่ช่วยป้องกันคนใกล้ตัว คนที่เรารัก ปลอดภัยไม่รับเชื้อไปจากตัวเรา

“การดำเนินมาตรการการป้องกันติดเชื้อตลอดเวลาเสมือนวัคซีนนอกขวด ไม่ว่าสายพันธุ์ไหน ใหม่หรือเก่า โดยปฏิบัติให้เกียรติกัน การระวังอย่างนี้ไมได้สร้างความรังเกียจเดียดฉันท์ไม่ดูแคลน ไม่ด้อยค่ากันและกัน แต่ทำไปด้วยความเข้าใจกัน และทุกคนร่วมมือช่วยกันทำ วิธีการไม่แตกต่างจากสิ่งที่เราทำมา แต่จะเข้มงวดมากขึ้น โดยใส่หน้ากาก อยู่ห่าง ล้างมือ ออกจากบ้านเท่าที่จำเป็น เพราะออกจากบ้านบ่อย มีโอกาสไปสัมผัสจุดอื่นได้เยอะ วางแผนการใช้ชีวิตให้ดีจะมีส่วนช่วย ซึ่งเรื่องนี้สำคัญอย่างยิ่ง เพราะที่มาที่ไปของโรคหลังๆ เกิดขึ้นในทุกจุด โรงงาน ที่ทำงาน ตลาด โรงเรียน ล้วนเกิดได้ทั้งสิ้น บางทีหาที่มาที่ไปยาก คนมีเชื้อโดยไม่รู้ตัว เจ้าตัวไม่รู้ตัว การป้องกันตลอดเวลาอย่างเข้าใจ และทำถูกต้องช่วยให้ทุกคนปลอดภัยไปด้วยกัน” นพ.เฉวตสรรกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน