รัฐบาลเตรียมเปิดเมืองเพิ่ม 5 จว. กรุงเทพฯ ชลบุรี เพชรบุรี ประจวบฯ เชียงใหม่รอตุลานี้ กลางเดือนเปิดเพิ่มอีก 21 จว. เตรียมอัดฉีดหนุนคนไทยเที่ยวเพิ่ม
วันที่ 9 ก.ย.64 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงแนวทางขับเคลื่อนแผนเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ว่า หลังจากรัฐบาลเดินหน้าแผนเปิดพื้นที่รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเดือนต.ค.นี้ รัฐบาลวางแผนปรับมาตรการภายใต้การป้องกันตนเองแบบครอบจักรวาล เพื่อเตรียมเข้าสู่แผนเปิดพื้นที่ระยะที่ 2 ใน 5 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ ชลบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และเชียงใหม่
โดยแต่ละจังหวัดเตรียมความพร้อมเร่งฉีดวัคซีนคนพื้นที่ และจัดแคมเปญต่างๆ รองรับนักท่องเที่ยว อาทิ กรุงเทพฯ แซนด์บ็อกซ์ หัวหิน รีชาร์จ และชาร์มมิง เชียงใหม่ เป็นต้น
จากนั้นช่วงกลางเดือนต.ค.จะเข้าสู่แผนระยะที่ 3 เปิด 21 จังหวัด ครอบคลุมทั้งประเทศ ภาคเหนือ ลำพูน แพร่ น่าน แม่ฮ่องสอน เชียงราย สุโขทัย ภาคอีสาน อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ อุบลราชธานี ภาคตะวันตก กาญจนบุรี ราชบุรี ภาคตะวันออก ระยอง จันทบุรี ตราด ภาคกลาง พระนครศรีอยุธยา ภาคใต้ นครศรีธรรมราช ระนอง ตรัง สตูล สงขลา
สำหรับแผนการนั้น รัฐบาลวางไว้เป็นระยะ นำร่องระยะที่ 1 ในรูปแบบแซนด์บ็อกซ์ ได้แก่ ภูเก็ต พังงา กระบี่ และสุราษฎร์ธานี ซึ่งโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ 2 เดือน ประสบความสำเร็จในระดับที่ดี น่าพอใจ รายจ่ายต่อทริปของนักท่องเที่ยวอยู่ที่ 6-7 หมื่นบาท รายได้สะสม 1,634 ล้านบาท สร้างรายได้ให้ประชาชนในพื้นที่จำนวนมาก
จากนี้รัฐบาลจะวางแผนกระตุ้นให้คนไทยเดินทางท่องเที่ยวในประเทศผ่านโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ระยะที่ 3 รัฐสนับสนุนค่าโรงแรม 40% ให้คูปองอาหาร 600 บาทต่อคืน และสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบิน 40% จำนวน 2 ล้านสิทธิ หรือห้องพัก รวมทั้งโครงการทัวร์เที่ยวไทย รัฐสนับสนุนวงเงิน 5,000 บาท ให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวผ่านบริษัททัวร์ จำนวน 1 ล้านสิทธิ คาดว่าจะเปิดลงทะเบียนภายในเดือนก.ย.นี้ เพื่อให้ท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซั่นของฤดูกาลท่องเที่ยวไทย
ทั้งนี้ นายกฯ กำชับดูแลเรื่องมาตรการตรวจโควิด-19 และความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวทุกคน ส่วนปีหน้าเป็นแผนระยะที่ 4 จะเริ่มเดือนม.ค.2565 โดยเปิดพื้นที่จังหวัดที่ติดชายแดนเพื่อนบ้าน อีก 13 จังหวัด จับคู่ท่องเที่ยวระหว่างกัน หรือทราเวล บับเบิ้ล ซึ่งทั้ง 4 ระยะจะเปิดรับนักท่องเที่ยว รวม 43 จังหวัด
นอกจากนั้นยังเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานทำงานร่วมกัน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมในแบบวิถีใหม่ ที่ผ่อนคลายมาตรการ ร่วมเดินหน้าเศรษฐกิจภายใต้กรอบสาธารณสุข เพี่อให้เกิดประโยชน์ทั้งในวันนี้และอนาคต ลดช่องว่าง ลดความเหลื่อมล้ำ ช่วยกันเดินหน้าสู่การเปิดประเทศวิถีใหม่ต่อไป