ลูกเศร้า แม่แข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนไขว้ เข็มที่ 2 โอดสปสช. ปฏิเสธลดค่าพยาบาล อ้างไม่เข้าเกณฑ์ผู้ป่วยวิกฤต ทั้งที่น็อกไม่รู้สึกตัว

9 ก.ย. 2564 – ผู้สื่อข่าวรายงายว่า ที่วัดมะขามเตี้ย ต.หัวรอ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งสวดอภิธรรม นางสุนันทา คุ้มฉาย อายุ 59 ปี ครูผู้ช่วยศูนย์เด็กเล็ก อบต.หัวรอ เสียชีวิตหลังจากเข้ารับการฉีดวัคซีนสูตรไขว้ เข็มที่ 2 แอสตร้าเซนเนกา และเกิดอาการน็อกเสียชีวิต โดยแพทย์ระบุว่า เส้นเลือดในสมองโปร่งพองและแตก

อย่างไรก็ตามครอบครัวได้หอบหลักฐานร้องขอความเป็นธรรม หลังคาใจสาเหตุการเสียชีวิตเป็นเพราะวัคซีนสูตรไขว้หรือไม่ เพราะแม่ตรวจสุขภาพประจำปีทุกปี ไม่เคยพบโรคประจำตัว ร่างกายแข็งแรง และเตรียมจะเกษียณตัวเองในเดือน เม.ย. 2565

ล่าสุด นายศุภวิชญ์ ขำแจ่ม อายุ 27 ปี ลูกชาย กล่าวว่า แม่ฉีดวัคซีนแบบสูตรไขว้ เข็มที่ 1 ซิโนแวค ไปเมื่อ 30 ก.ค. และเข้ารับวัคซีนเข็มที่ 2 เมื่อวันที่ 27 ส.ค. หลังรับวัคซีนเข็มสอง แม่ก็เริ่มมีไข้ ปวดหัว เมื่อยเนื้อเมื่อยตัว คิดว่าเป็นเพราะผลข้างเคียงของวัคซีนทั่วไป จึงกินยาพาราไว้ แต่แม่ก็มีอาการแบบนี้เรื่อย ๆ มาประมาณ 6 วัน

กระทั่งช่วงเย็นวันที่ 7 ก.ย. แม่บ่นว่าปวดหัวมาก ตนจึงเตรียมที่จะพาไปหาหมอ แต่จู่ ๆ แม่เกิดน็อกหมดสติไป ตนจึงรีบโทร 1669 เรียกรถพยาบาลมารับ ตอนนั้นตนต้องการไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชน เพราะว่ากลัวว่าโรงพยาบาลประจำจังหวัดจะมีผู้ป่วยเยอะ แต่รถพยาบาลแจ้งว่าให้ไปโรงพยาบาลประจำจังหวัดดีกว่า

เมื่อไปถึงโรงพยาบาลประจำจังหวัด ปรากฏว่ามีคนไข้เยอะ แม่ไม่ได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วนเท่าที่ควร ตนจึงตัดสินใจขอย้ายคุณแม่ไปรักษาโรงพยาบาลเอกชน เพียง 1 ชั่วโมง แพทย์แจ้งว่าแม่มีอาการเส้นเลือดใหญ่ในสมองแตก มีเลือดคั่งจำนวนมาก โอกาสรอดมีเพียง 1% ไม่แนะนำให้เสี่ยงผ่าตัด เพราะแม่อาจจะเสียชีวิตขณะผ่าได้ แต่อยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจ เพราะสมองตายหมดแล้ว จนแม่เสียชีวิตลง

ลูกชายผู้เสียชีวิต กล่าวต่อว่า เสียใจมาก เหตุการณ์มันไว ไม่ทันได้ตั้งตัว แม่ร่างกายแข็งแรงดี ตรวจสุขภาพประจำปีทุกปี ไม่เคยพบโรคประจำตัว ตนต้องการร้องขอความเป็นธรรมให้กับแม่ เพราะผลการชันสูตรแพทย์ระบุว่าแม่เสียชีวิตด้วยสาเหตุเส้นเลือดโปร่งพองและแตก ทั้ง ๆ ที่แม่แข็งแรงดีทุกอย่าง มั่นใจว่าแม่เสียชีวิตเพราะฉีดวัคซีน อยากให้หน่วยงานช่วยเหลือตนด้วย ตอนนี้ตนมีค่าใช้จ่ายจากแม่รักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชน เป็นเงินกว่า 8 หมื่นบาท ตนทำเรื่องไปยัง สปสช.เพื่อขอเป็นเคสผู้ป่วยวิกฤต เพื่อลดค่าใช้จ่ายจากโรงพยาบาลเอกชน แต่ก็ถูกปฏิเสธ อ้างว่าไม่เข้าเกณฑ์ผู้ป่วยวิกฤต ทั้งๆ ที่แม่ตนน็อกไม่รู้สึกตัวเลย ตนต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายจาก รพ.เอกชนเองทั้งหมด

อยากขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาดูบ้าง ก่อนที่จะมีพิธีฌาปนกิจแม่ของตนในวันเสาร์ที่ 11 ก.ย. และอยากจะฝากเตือนเป็นอุทธาหรณ์ สำหรับคนที่กำลังจะฉีดวัคซีนสูตรไขว้ อยากให้ดูแม่ตนเป็นตัวอย่าง ขนาดร่างกายแข็งแรงดี ยังเสียชีวิตได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน