เชียงใหม่ พบการระบาดในครอบครัว 108 ราย พบยังปกปิดข้อมูลความเสี่ยง เนื่องจากทำกิจกรรมที่ห้ามดำเนินการ มีทั้งปาร์ตี้-สาวเอ็น-เล่นการพนัน
เมื่อวันที่ 22 ต.ค.64 ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ แถลงสถานการณ์การระบาดโรคโควิด-19 จังหวัดเชียงใหม่ประจำวันว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 356 ราย เป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดเพียง 6 ราย ที่เหลือเป็นผู้ติดเชื้อในจังหวัด
โดยมาจากคลัสเตอร์ต่าง ๆ หลายคลัสเตอร์ ประกอบด้วยคลัสเตอร์ใหม่ ที่มีการระบาดอย่างต่อเนื่อง จำนวน 120 ราย ได้แก่ คลัสเตอร์ตลาดเมืองใหม่ 67 ราย, หย่อมบ้านจือทะ และเมโลเด อมก๋อย 31 ราย, บริษัทแดงกลอนประตู ตำบลช้างคลาน 4 ราย, ร้านมือสองหนองหอย อำเภอเมือง 4 ราย, ไซต์งานก่อสร้าง กองบิน 41 อำเภอเมือง 3 ราย, และอีกหลายแห่งที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 1-2 ราย
คลัสเตอร์เดิม จำนวน 87 ราย ซึ่งเป็นผู้ติดเชื้อที่พบระหว่างการกักตัวหรือติดตาม จึงไม่มีผู้สัมผัสเพิ่มเติม ได้แก่ ตลาดวโรรสและตลาดต้นลำไย 9 ราย, บริษัทเกเบี้ยนโปรดักส์ไทยแลนด์ สารภี 8 ราย, บ้านแม่โถ หมู่ 1 ตำบลบ่อสลี อำเภอฮอด 8 ราย, โรงงานน้ำดื่มพีเอ็น หมู่ 9 ตำบลต้นเปา 7 ราย, ตำบลสันต้นหมื้อ อำเภอแม่อาย 6 ราย, โลตัสคำเที่ยง 5 ราย, หมู่ 7 ตำบลหางดง อำเภอฮอด 5 ราย และอีกหลายแห่งที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 1-4 ราย
เป็นผู้ติดเชื้อในครอบครัว จำนวน 108 ราย โดยในวันนี้พบการระบาดเฉพาะในครอบครัวหลายครอบครัวด้วยกัน และกระจายหลายอำเภอ ซึ่งพบว่าส่วนใหญ่ยังปกปิดข้อมูลความเสี่ยง เนื่องจากทำกิจกรรมที่ห้ามดำเนินการ เช่น จัดปาร์ตี้ มีสาวเอ็นเตอร์เทน กิจกรรมการพนัน ต่างๆ ทำให้เกิดการสัมผัสในครอบครัว และอยู่ระหว่างการสอบสวนโรคอีก 35 ราย
สำหรับคลัสเตอร์ตลาดเมืองใหม่ ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อสะสมแล้ว 1,288 ราย ส่วนใหญ่เป็นการตรวจพบครั้งที่ 3 ของกลุ่มเสี่ยงสูงก่อนครบระยะเวลาการกักตัว รวมถึงกลุ่มผู้สัมผัสต่างอำเภอ และผู้สัมผัสร่วมบ้าน, คลัสเตอร์ ตลาดวโรรส และตลาดต้นลำไย มีผู้ติดเชื้อสะสมแล้ว 74 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้มีประวัติเข้าไปจับจ่ายซื้อของ และผู้สัมผัสร่วมบ้าน
ทั้งนี้ ตลาดวโรรส และตลาดต้นลำไย มีความพร้อมที่จะเปิดดำเนินการแบบนิวนอร์มอลในวันที่ 24 ต.ค.นี้ ภายใต้เงื่อนไขเดียวกันกับตลาดเมืองใหม่ ที่จะกลับมาทำการค้าขายได้ ตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค.64 เป็นต้นไป, คลัสเตอร์โลตัสคำเที่ยง มีผู้ติดเชื้อสะสม 52 ราย และครบกำหนดเปิดดำเนินการในวันพรุ่งนี้ ภายใต้มาตรการเดียวกันกับตลาดเมืองใหม่
โดยทั้งหมดนี้จะต้องตรวจ ATK สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ต่อเนื่อง 4 สัปดาห์ ซึ่งจะสอดคล้องกับภูมิคุ้มกันผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีน และคลัสเตอร์บริษัทเกเบี้ยนโปรดักส์ไทยแลนด์ จำกัด อำเภอสารภี มีผู้ติดเชื้อสะสม 53 ราย ติดเชื้อในสถานที่ทำงาน และในครอบครัว ด้านทีมควบคุมโรคอำเภอสารภีตรวจค้นหากลุ่มเสี่ยงอย่างเร่งด่วน ซึ่งผู้ที่มีผลการตรวจหาเชื้อเป็นลบ จะต้องกักตัว 14 วัน พร้อมปิดบริษัทเกเบี้ยนฯ และบริษัทในเครืออีก 3 แห่งเป็นเวลา 14 วัน
ทั้งนี้ ขอประกาศให้ผู้ที่มีประวัติเดินทางไปหรือใช้บริการหรือสัมผัสกับพนักงาน บริษัทแดงกลอนประตู จำกัด ตำบลช้างคลาน อำเภอเมือง, ร้านมือสองหนองหอย ตำบลหนองหอย อำเภอเมือง, ร้าน N&B YUM ข้าวมันไก่ไข่นุ่ม ตำบลหายยา อำเภอเมือง, ร้านกิ่งไกร นิมมานเหมินทร์ ซอย 11 ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง, ร้านลาคาน หมู่ 3 ตำบลข่วงเปา อำเภอจอมทอง และร้านหวานละมุน ย่านอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ระหว่างวันที่ 15-22 ต.ค.64 ให้สังเกตอาการ 14 วัน หากพบอาการผิดปกติ ให้เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทันที
และขอให้ผู้ที่เดินทางไปที่บัลลังค์ 4 ศาลจังหวัดเชียงใหม่ ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ ในวันที่ 14 ตุลาคม 2564 เวลา 09.00-12.00 น. สังเกตอาการ 14 วัน หากพบอาการผิดปกติให้เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19
ส่วนรายละเอียดของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย รายแรก เป็นหญิงไทย อายุ 60 ปี มีประวัติเป็นโรคอ้วน และผู้ป่วยติดเตียง ปัจจัยการติดเชื้อไม่ชัดเจน และได้รับวัคซีนซิโนฟาร์ม 1 เข็ม เมื่อ 17 ก.ย.64 โดยวันที่ 16 ต.ค. เริ่มมีอาการเหนื่อยหอบ แน่นหน้าอก
วันที่ 20 ต.ค. มีอาการเหนื่อยหอบ แน่นหน้าอกมากขึ้น กู้ภัยจึงนำส่งโรงพยาบาลฝาง ใส่ท่อช่วยหายใจ เบื้องต้นตรวจ Rapid Antigen Test ผลเป็นลบ รับไว้รักษาที่ โรงพยาบาลฝาง แต่เนื่องจากมีอาการปอดบวม จึงตรวจ RT-PCR พบว่าติดเชื้อโควิด กระทั่งวันที่ 20 ต.ค. พบว่าระบบหายใจล้มเหลว และเสียชีวิตลงในเวลา 18.47 น.
อีกรายเป็นชายไทย อายุ 53 ปี มีประวัติเป็นไตวาย ความดันโลหิตสูง เกาต์ และโรคอ้วน ปัจจัยเสี่ยงในการติดเชื้อ คือการระบาดในคลัสเตอร์กาดเมืองใหม่ ไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน โดยตรวจพบเชื้อจากการเข้ารับการตรวจคัดกรอง ภายหลังมีการระบาดในพื้นที่ทำงานเมื่อวันที่ 13 ต.ค. ที่ผ่านมา
วันที่ 14 ต.ค. จึงเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสนามเชียงใหม่ วันที่ 17 ต.ค. มีอาการถ่ายเหลว เหนื่อยมากขึ้น ออกซิเจนในเลือดต่ำ จึงส่งตัวเข้ารับการรักษาต่อที่โรงพยาบาลนครพิงค์ จากนั้นวันที่ 18 ต.ค.พบว่าระบบหายใจล้มเหลว ความดันโลหิตต่ำ จึงมีการใส่ท่อช่วยหายใจ และได้เสียชีวิตลงในวันที่ 21 ต.ค. ในเวลา 01.10 น.
