โคราช ระส่ำ สั่งปิด 2 หมู่บ้าน หลังพบ คลัสเตอร์เล่นน้ำท่วม ติดโควิดทะลุครึ่งร้อยแล้ว มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเกือบ 90 ราย เร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเฝ้าระวัง
วันที่25 ต.ค.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา หลังจากศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอโนนสูง ได้รับรายงานเมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา ว่าพบผู้ติดโควิด-19 ในพื้นที่บ้านดอนแฝก ม.8 และ บ้านดอนแฝกพัฒนา ม.15 ต.พลสงคราม จำนวน 34 ราย ซึ่งเป็นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในลักษณะเป็นกลุ่มก้อน
จากการสอบสวนโรคเบื้องต้นพบผู้ติดเชื้อมีประวัติการสัมผัสกับประชาชนในหมู่บ้านเป็นจำนวนมาก โดยมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่ต้องเฝ้าระวัง 89 ราย จึงมีความจำเป็นในการปิดสถานที่เสี่ยง (พื้นที่หมู่บ้านดอนแฝก และ หมู่บ้านดอนแฝกพัฒนา) ต่อการแพร่เชื้อโรคติดต่ออันตราย ห้ามบุคคลเข้าและออกพื้นที่เป็นเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 19 ต.ค.-2 พ.ย.2564
โคราช ระส่ำ สั่งปิด 2 หมู่บ้าน หลังพบ คลัสเตอร์เล่นน้ำท่วม ติดโควิดทะลุครึ่งร้อยแล้ว
สำหรับคลัสเตอร์ดังกล่าวมีการตรวจพบผู้ป่วยรายแรกเป็นหญิง อายุ 53 ปี หลังจากนั้นการค้นหาเชิงรุกในครอบครัวก็พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 3 ราย จากการสอบสวนโรคพบว่า ในช่วงที่น้ำท่วม เด็ก ๆ ในหมู่บ้านอายุระหว่าง 9-15 ปี ได้ไปลงเล่นน้ำบริเวณคลองอีสานเขียวท้ายหมู่บ้าน และไปเล่นน้ำที่ไหลลาดผิวถนนกันเป็นจำนวนมาก จนมีการติดเชื้อขึ้นในวงเด็กที่ไปเล่นน้ำ และนำไปกระจายติดภายในครอบครัว
และเนื่องจากพื้นที่หมู่บ้านเป็นเครือญาติมีการติดต่อไปมาหาสู่กัน ทำให้เชื้อแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว จึงมีความจำเป็นต้องปิดพื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ เพราะหากปล่อยไว้เนิ่นนานจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชน และกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ ซึ่งเป็นการปิดหมู่บ้านเป็นครั้งที่ 2 ในรอบปี หลังจากทั้ง 2 หมู่บ้านแห่งนี้ได้ถูกปิดพื้นที่ควบคุมโรคมาแล้วเมื่อช่วงเดือนมิ.ย.2564
ล่าสุดจากการตรวจเชิงรุกผู้สัมผัสเสี่ยงสูงใกล้ชิดกับผู้ป่วย พบผู้ติดโควิด-19 เพิ่มอีก 18 ราย รวมจำนวนผู้ติดเชื้อจากคลัสเตอร์นี้ทั้งสิ้น 52 ราย ขณะนี้ผู้ป่วยและผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอยู่ระหว่างการเข้าทำการรักษาและเข้ากักตัวควบคุมโรค ซึ่งขณะนี้ทางฝ่ายปกครองอำเภอโนนสูงอยู่ระหว่างการประชาสัมพันธ์และขอความร่วมมือประชาชนในการมาเล่นน้ำที่ท่วมขังลาดผิวถนน รวมถึงเฝ้าระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซ้ำขึ้นมาอีก
