โควิด : สธ.เผยสูตรไขว้ ซิโนแวค-แอสตร้าฯ ป้องกันติดเชื้อได้ 70% สูงกว่าแอสตร้าฯ 2 เข็ม ที่ป้องกันติดเชื้อ 54% ส่วนจีนเตรียมบริจาคซิโนแวคเพิ่ม 1.5 ล้านโดส
เมื่อวันที่ 5 พ.ย. 2564 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน มีการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น 824,650 โดส สะสม 78,656,124 โดส เข็มแรกครอบคลุม 60.3% เข็มที่ 2 ครอบคลุม 45.4% และเข็ม 3 ครอบคลุม 3.5% ภาพรวมฉีดซิโนแวค 24 ล้านโดส แอสตร้าเซนเนก้า 34 ล้านโดส ซิโนฟาร์ม 32 ล้านโดส และไฟเซอร์ 6 ล้านโดส
ส่วนพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว (สีฟ้า) 17 จังหวัด ที่ต้องฉีดวัคซีนครอบคลุมมากกว่าพื้นที่อื่น ๆ เพราะมีทั้งคนไทยและต่างชาติเข้าพื้นที่จำนวนมาก ภาพรวมฉีดครอบคลุมกว่า 80% ของประชากร ก็จะมีความปลอดภัย หากติดเชื้อจะไม่มีอาการรุนแรง และลดการติดเชื้อลง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงสูงอายุและโรคเรื้อรังฉีดเข็ม 1 แล้ว 77% และเข็ม 2 ฉีด 64% ส่วนจังหวัดอื่นๆ ไม่ใช่พื้นที่นำร่อง เดือน ธันวาคม จะมีนำร่องเพิ่มอีก 17-18 จังหวัดก็ให้เร่งฉีดต่อไป
สำหรับมติการประชุมคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค มีการประชุมเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา รับทราบถึงประสิทธิผลการป้องกันการติดเชื้อ ซึ่งวัคซีนทุกตัวป้องกันป่วยหนักและเสียชีวิต 80-90% ขึ้นไป แต่สายพันธุ์เดลตาทำให้ประสิทธิผลป้องกันการติดเชื้อลดน้อยลงเมื่อเทียบกับสายพันธุ์อื่น
จากศึกษาการฉีดวัคซีนจากการใช้งานจริง โดยใช้ฐานข้อมูลห้องปฏิบัติการของสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.) ของผู้รับบริการเขตกรุงเทพฯ และข้อมูลการฉีดวัคซีนในระบบหมอพร้อมเมื่อกันยายน 64 ซึ่งเป็นช่วงที่มีการระบาดของเดลตาสูง
พบว่าแอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็ม ห่าง 12 สัปดาห์ ป้องกันติดเชื้อ 54% ถ้าเป็นสูตรไขว้ซิโนแวค-แอสตร้าเซนเนก้า ห่าง 3-4 สัปดาห์ ป้องกันติดเชื้อ 70% ถือว่ามีประสิทธิผลน่าพอใจ และเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่กรุงเทพฯ ลดการระบาดได้ดี เพราะฉีดวัคซีนครอบคลุมมาก หากประสิทธิผลป้องกันติดเชื้อเกิน 50% องค์การอนามัยโลกถือว่ามีมาตรฐาน จึงเป็นข้อมูลที่ดีสำหรับจังหวัดอื่น ๆ จะได้เร่งฉีดวัคซีนเพื่อควบคุมการระบาดและการติดเชื้อ
นพ.โอภาส กล่าวว่า สำหรับวัคซีนที่เข้ามานั้น สัปดาห์หน้าจะมีแอสตร้าเซนเนก้าส่งมอบอีก 2 ล้านโดส ซึ่งขณะนี้ส่งมอบกว่า 35 ล้านโดส ถือว่าเป็นไปตามแผน และปลายเดือนนี้ยอด 61 ล้านโดสบริษัทบอกส่งครบแน่ ส่วนไฟเซอร์ตอนนี้ส่ง 6-8 ล้านโดส กลางสัปดาห์หน้าอีก 6 ล้านโดส ดังนั้น สัปดาห์หน้าจะมี 8 ล้านโดส
อีกทั้งยังได้รับการประสานจากประเทศจีน โดยสถานเอกอัครราชทูตแจ้งว่าจะบริจาคซิโนแวคให้ประเทศไทยอีก 1.5 ล้านโดส สัปดาห์หน้าวัควีนจะมีเพียงพอ ประชาชนที่ยังไม่ฉีด ทั้งเข็ม 1, 2 หรือ 3 ก็ติดต่อขอข้อมูลอันไหนเปิดจองฉีดก็จองได้ ที่ไหนพร้อมฉีดก็ติดต่อได้
โดยเฉพาะกรุงเทพฯ ที่มีจุดฉีดหลายจุดอย่างสถานีกลางบางซื่อ กรมการแพทย์ก็จะเปิดอีกหลายจุด และประสาน รพ.จุฬาลงกรณ์ทราบว่าจะเปิดจุดฉีดให้ประชาชนอีก ส่วนยอดเหลือของซิโนแวคเหลือประมาณ 2 ล้านโดส กระจายทั้ง 77 จังหวัด กำลังเตรียมการให้กับประชาชน คนยังไม่ได้รับไปรับเพิ่มเติมได้
เมื่อถามถึงการฉีดสูตรไขว้แอสตร้าเซนเนก้า-ไฟเซอร์ จะเป็นสูตรหลักหรือไม่ นพ.โอภาสกล่าวว่า เราฉีดอะไรดูตามปริมาณวัคซีนที่มี และเหตุผลทางการวิจัยในไทย ซึ่งเราเริ่มสูตรไขว้ เพราะการระบาดมีสูง สูตรหลักตอนนั้น คือ แอสตร้าฯ 2 เข็ม ห่าง 12 สัปดาห์ ถือว่าค่อนข้างช้า
เรามีการศึกษาวิจัยทั้งศิริราช จุฬาฯ และหลาย ๆ ที่ พบว่าให้ซิโนแวคตามด้วยแอสตร้าฯ ประสิทธิผลป้องกันโรคในทดลองพอ ๆ กับแอสตร้าฯ 2 เข็ม แต่ใช้เวลาเร็วกว่า 3-4 สัปดาห์ จึงใช้สูตรซิโนแวค-แอสตร้าฯ เป็นสูตรหลัก และจากการใช้จริง ก็มีประสิทธิผลป้องกันติดเชื้อดีมาก ป้องกันเสียชีวิตและป่วยหนัก
ขณะนี้ซิโนแวคเหลือน้อย ต่อไปถ้าหมดแล้ว จังหวัดก็ใช้สูตรแอสตร้าฯ – ไฟเซอร์ได้ ซึ่งข้อดีทำให้ฉีดครบ 2 โดสได้เร็วขึ้นและประสิทธิผลไม่ได้น้อยกว่า บางทีดีกว่าสูตรเดิม ความปลอดภัยเราฉีดไขว้มาเยอะ 30 ล้านโดส เทียบกับสูตรปกติไม่แตกต่างกัน หลายคนกังวลสูตรไขว้มีผลข้างเคียงมากกว่าหรือไม่ เราฉีดเกือบ 80 ล้านโดส ถือว่าวัคซีนมีความปลอดภัย
อีกทั้งสูตรไขว้กับปกติผลข้างเคียงไม่แตกต่างกัน ให้ติดตามแต่ละที่ว่ามีวัคซีนอะไร สูตรฉีดอะไร หลายคนอยากเลือกสูตรฉีด จะบอกว่า วัคซีนแต่ละชนิดมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน ประสิทธิผลไม่แตกต่างกัน แต่ผลข้างเคียงแตกต่างกันบ้าง แต่อยากให้รับวัคซีนตรงจุดนั้น ๆ น่าจะเป็นสิ่งที่ดีในภาพรวม
