กาฬสินธุ์ คลัสเตอร์งานศพ ยอดพุ่งพบติดเชื้อแล้วครึ่งร้อย เผยมีการกินข้าวร่วมกัน

กาฬสินธุ์ คลัสเตอร์งานศพ ยอดพุ่งพบติดเชื้อแล้วครึ่งร้อย เสี่ยงอีกนับร้อย รอผลตรวจ เผยมีการกินข้าวร่วมกัน อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค

วันที่ 12 พ.ย. 2564 ศูนย์อำนวยการต้านโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จ.กาฬสินธุ์ รายงานสถานการณ์ล่าสุดพบผู้ป่วยใหม่ 35 ราย ทั้งหมดเป็นการติดเชื้อในจังหวัด และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย เป็นครูชายชาวฟิลิปปินส์ อายุ 43 ปี ภูมิลำเนาอยู่ใน ต.บัวขาว อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ และหญิง อายุ 66 ปี ชาว อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ ส่งผลให้ยอดผู้ป่วยสะสมของจังหวัดอยู่ที่ 9,616 ราย หายป่วยแล้ว 9,223 ราย กำลังรักษาตัว 330 ราย และมีผู้เสียชีวิตสะสม 63 ราย

นพ.อภิชัย ลิมานนท์ นายแพทย์สสจ.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า สถานการณ์ภาพรวมยังคงพบผู้ป่วยเป็นกลุ่มก้อน ตามอำเภอต่างๆ ส่วนใหญ่ติดเชื้อกันภายในครอบครัวและบุคคลใกล้ชิด รวมทั้งการไปร่วมงานบุญ งานประเพณี ซึ่งหลังจากได้รับรายงานการพบผู้ป่วยแต่ละครั้ง เจ้าหน้าที่ได้บูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วนลงพื้นที่สอบสวนโรค และคัดกรองกลุ่มเสี่ยงทันที พร้อมกับนำตัวผู้ป่วยเข้ารักษา คัดแยกกลุ่มเสี่ยงเข้าตรวจหาเชื้อและนำเข้าสู่ระบบกักกักตัวตามมาตรการ

นพ.อภิชัย กล่าวต่อว่า กรณีคลัสเตอร์ใหญ่ในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา 2 คลัสเตอร์ คือ คลัสเตอร์เรือนจำโครงสร้างเบาโคกคำม่วง และคลัสเตอร์ห้างจำหน่ายอุปกรณ์ก่อสร้างโกลบอลเฮ้าส์นั้น ขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายลงแล้ว กลุ่มเสี่ยงได้รับการตรวจคัดกรอง และผู้ป่วยได้รับการรักษา ส่วนใหญ่หายป่วยกลับบ้านเกือบจะทั้งหมดแล้ว

ส่วนคลัสเตอร์งานศพในพื้นที่ชุมชนบ้านบัวขาว ม.12 ต.บัวขาว อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นคลัสเตอร์ใหม่ และค่อนข้างมีแนวโน้มเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ เนื่องจากเท่าที่ได้รับรายงานเบื้องต้นล่าสุดพบผู้ป่วยติดเชื้อแล้วมากกว่า 50 ราย และกำลังรอการรายงานอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ทั้งนี้เนื่องจากคลัสเตอร์นี้เริ่มแรกเกิดจากการจัดงานศพ เมื่อช่วงกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา แล้วมีการรับประทานอาหารร่วมกัน

หลังจากนั้นมีการแพร่กระจายอยู่ตามชุมชนต่างๆ มีกลุ่มเสี่ยงหลายร้อยคน ซึ่งสถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย เพราะยังอยู่ระหว่างการสอบสวนโรค การติดตามตัวบุคคลกลุ่มเสี่ยง และอยู่ระยะของการเฝ้าระวัง ขณะนี้ได้ส่งทีมสอบสวนโรคของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลงพื้นที่ช่วยดำเนินการร่วมกับทางอำเภอกุฉินารายณ์ พร้อมทั้งมีการประสานงานกับนายอำเภอ เพื่อร่วมหารือในการปิดกิจกรรมและกิจการที่มีความเสี่ยง โดยเฉพาะสถานที่รวมคนจำนวนมาก

เช่น โรงเรียนปิดการสอนชั่วคราว ตลาดสดต้องเป็นไปตามมาตรฐาน ซึ่งหากยังไม่สามารถดำเนินการได้จะต้องปิดชั่วคราวเช่นกัน ส่วนงานบุญ งานประเพณีต้องปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ในงานควรงดการรับประทานอาหารร่วมกัน อย่างไรก็ตามขอให้ประชาชนได้ปฏิบัติตามมาตรการ งดเดินทางไปสถานที่เสี่ยง และสวมหน้ากากทุกครั้ง และขอเชิญชวนประชาชนออกมารับการฉีดวัคซีนให้มากที่สุด เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันโควิด-19