ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี สั่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข-โรงเรียนคุมเข้ม หลังพบ คลัสเตอร์รถรับส่งนักเรียน ระบาด พบติดเชื้อเพิ่ม เผย กลุ่มเสี่ยงกักตัวกว่า 1,000 คน
จากกรณี พบรถตู้รับส่งนักเรียน ในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี มีนักเรียนติดโควิดร่วมเดินทาง เบื้องต้นแพร่เชื้อแล้ว 24 คน กลุ่มเสี่ยงกว่า 290 คน ต้องสั่งปิดเรียนออนไซต์ 5 โรงเรียน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว : รถรับส่งนักเรียน ทำวุ่น นร.ประถม ติดเชื้อ 24 คน ลาม 2 โรงเรียน ต้องปิด 5 ร.ร.เสี่ยง
ล่าสุดวันที่ 18 พ.ย.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการแพร่ระบาดในส่วนของโรงเรียนที่มีเด็กนักเรียนติดโควิดมาจากเพื่อนที่นั่งรถตู้รับส่งแล้วนำมาแพร่ติดต่อกันในเขต อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ปรากฏมียอดผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอีก 11 ราย เป็นเด็กนักเรียนและครู รวมขณะนี้มีผู้ป่วยจาก คลัสเตอร์รถรับส่งนักเรียน แล้ว 35 ราย
ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี สั่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข-โรงเรียนคุมเข้ม หลังพบ คลัสเตอร์รถรับส่งนักเรียน ระบาด พบติดเชื้อเพิ่ม
ทำให้ นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่สาธารสุขและโรงเรียนเข้าดูแลกวดขันรถรับส่งนักเรียนให้ปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวังระหว่างวิ่งรถรับส่งเด็กนักเรียนในส่วนของโรงเรียนที่ยังเปิดทำการเรียนการสอนอยู่ขณะนี้ รวมทั้งโรงเรียนระดับอนุบาลและประถมศึกษาใน อ.น้ำยืน และ อ.น้ำขุ่น ที่พบการระบาดใน 3 โรงเรียน
เพราะเด็กติดเชื้อจากผู้ปกครองมาแพร่สู่เพื่อนนักเรียนและครู จนมียอดป่วยแล้วกว่า 70 คน โดยให้เข้าไปดูแลครอบครัวผู้ติดเชื้อ เพื่อไม่ให้มาแพร่สู่กันได้อีก ซึ่งจากการระบาดของโรงเรียนในเมืองและต่างอำเภอ มีนักเรียนและครูที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต้องกักตัวรวมกันกว่า 1,000 คน
จากการสอบถาม คนขับรถตู้รับส่งนักเรียนในอ.เมือง เปิดเผยว่า มาตรการเฝ้าระวังการแพร่เชื้อโรค นอกจากมีเจลแอลกอฮอล์ล้างมือแจกก่อนขึ้นรถ ยังมีการตรวจวัดอุณหภูมิ และเตรียมหน้ากากสำรองแจกให้กับเด็กที่ไม่ได้เอาหน้ากากมาด้วย ซึ่งรถตู้ของตนเองรับส่งนักเรียนใน 3 โรงเรียนไม่เกิน 13 ที่นั่ง แต่ปัจจุบันมีการสลับวันมาเรียน ทำให้รับนักเรียนไม่เต็มที่นั่ง และเมื่อเกิดการติดเชื้อ มีการสั่งปิดโรงเรียนหลายแห่ง จึงมีนักเรียนโดยสารมาด้วยวันละ 1-3 คนเท่านั้น
ส่วนผู้ประกอบการอีกราย เปิดเผยว่า ตนปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรค โดยทุกเช้าก่อนนำรถออกมารับส่งนักเรียน มีการทำความสะอาดตัวรถ ก่อนเด็กนักเรียนจะขึ้นรถมีการฉีดพ่นแอลกอฮอล์ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ สร้างความมั่นใจให้ผู้ปกครอง เพราะผู้ปกครองของเด็กที่ใช้บริการก็สอบถามมาตรการเช่นกัน
