หมอธีระวัฒน์ โพสต์ 4 ตัวแปร มีผลต่อการประเมินความเสี่ยง-รุนแรง ของโอมิครอน ตัวแปรอยู่ที่เดลตา จะแรงเหมือนเดิมหรือไม่ และทั้ง2จะกลายเป็นไฮบริดหรือไม่

เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายแพทย์ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha ถึงตัวแปรของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งมีความหลากหลายในการประเมินความเสี่ยงและความรุนแรงของสายพันธุ์ดังกล่าว ดังนี้

1.อาจจะขึ้นอยู่กับลักษณะของภูมิที่เกิดขึ้นจากการติดเชื้อธรรมชาติหรือจากวัคซีน (ซึ่งทั้งหมดป้องกันการติดโอมิครอนได้ไม่ดี แต่ช่วยลดอาการ) ในแอฟริกาใต้เป็นสี่ระลอก และภูมิส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อ โดยลักษณะของไวรัสน่าจะไม่เหมือนกับในอังกฤษ โดยที่อังกฤษยังมีเดลต้าและโอมิครอน

ในขณะที่แอฟริกาใต้เป็นโอมิครอน แต่ความรุนแรง จนกระทั่งถึงวันที่ 20 ธ.ค.64 ทั้ง 2 ประเทศคล้ายกัน แอฟริกาใต้ยังคงไม่รุนแรง อังกฤษติด 91,743 ต่อวัน (584,688 ใน 7 วัน เพิ่มขึ้น 221,006 เทียบกับ 7 วันก่อนหน้านี้) ตาย 44 (786 ใน 7 วัน ลดลง 45 รายเทียบกับ 7 วันก่อนหน้านี้) โอมิครอน 129 ราย ตาย 14

2.ประเทศไทยเป็นสามระลอกเช่นเดียวกัน และรอบสี่จะเป็นโอมิครอน แต่ทั้งนี้รอบสามของเดลต้าอ่อนกำลังลงมาก ขณะนี้ตัวแปรอยู่ที่เดลต้าในประเทศไทยจะกลับรุนแรงขึ้นมาใหม่หรือไม่ และจะระบาดกับโอมิครอน ที่ติดง่ายแต่รุนแรงน้อย ในขณะที่เดลต้าติดยากกว่าบ้าง แต่จะแรงเหมือนเดิมหรือไม่ และทั้งสองจะกลายเป็นไฮบริดหรือไม่

3.แต่ไม่ว่าความรุนแรงของโอมิครอน จะน้อยกว่าเดลต้าก็ตาม ยังมีปัญหาในคนเปราะบางที่อาจจะมีความรุนแรงสูง และเข้ามาครองเตียงในโรงพยาบาลและถ้ามีการแพร่ในโรงพยาบาลจะทำให้สถานการณ์รุนแรงขึ้นแบบเดิมกับที่เจอในเดลต้า

4.โอมิครอนถึงแม้อาการอาจไม่รุนแรง แต่จะเกิดอาการแทรกซ้อนระยะยาวที่เรียกว่า long covid ได้หรือไม่ ซึ่งเป็นกลุ่มอาการทางสมองจิตอารมณ์กล้ามเนื้อและระบบประสาทอัตโนมัติรวมทั้งหัวใจแบบเดียวกับที่มีปัญหาทั่วโลกอยู่ในขณะนี้

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน