ศูนย์จีโนมฯ รพ.รามา เปิดผลสุ่มตรวจตัวอย่าง เจอ ‘โอมิครอน’ มากกว่า ‘เดลต้า’ ในกรุงเทพ ‘โควิด ‘ ใกล้จบเกม กลายเป็นโรคประจำถิ่น เหมือนหวัดใหญ่

วันที่ 17 ม.ค.65 ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์ภาพและข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กเพจ ‘Center for Medical Genomics’ ความว่า เริ่มได้เห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์กันแล้ว ปรับปรุง 17/1/2565

ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ฯ ตรวจสายพันธุ์ไวรัสโคโรนา 2019 จาก รพ.รัฐ และ เอกชน ในกรุงเทพ และปริมณฑล ระหว่างวันที่ 3-16 ม.ค.65 พบ โอมิครอน 97.1% (69/71) เดลต้า 2.8% (2/71)
ตัวอย่างสุ่มตรวจจากเรือนจำ เดลต้า 100% (30/30)

อันหมายถึงในกรุงเทพ หากไม่นับในเรือนจำ “โอมิครอน” น่าจะเข้ามาแทนที่ “เดลต้า” เกือบหมดแล้ว “Twindemic” หรือการติดเชื้อสองสายพันธุ์ ระหว่าง “โอมิครอน” และ “เดลต้า” ไปพร้อมกันในระยะเวลาสั้นๆได้จบลงแล้ว

ไม่นาน “โอมิครอน”คงจะกระจายไปทั่วประเทศ ไม่ช้าคงเป็นตามที่ ดร.แอนโธนี เฟาซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคติดต่อและภูมิแพ้แห่งชาติของสหรัฐ ซึ่งเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคนสำคัญในคณะทำงานเพื่อต่อสู้กับการแพร่ระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด-19ของรัฐบาลสหรัฐ ได้เตือนว่า “ในที่สุดแทบทุกคนจะติดเชื้อไวรัส โอมิครอน”

จากนั้นทั้งภูมิคุ้มกันจากวัคซีนและจากการติดเชื้อตามธรรมชาติจะพุ่งขึ้นสูง ลดความรุนแรงของโรคโควิด-19 และลดอัตราการเสียชีวิตลงอย่างรวดเร็ว เห็นปรากฏการนี้ได้อย่างชัดเจนจากข้อมูลผู้ติดเชื้อรายใหม่และผู้เสียชีวิตทั่วโลกจาก “โอมิครอน”

ผู้ติดเชื้อรายใหม่ในแอฟริกาใต้ลดลงจนเข้าสู่สภาวะปรกติ ในขณะที่ผู้เสียชีวิตไม่มาก มีประชากรติดเชื้อไวรัสจากธรรมชาติเป็นจำนวนมาก

ผู้ติดเชื้อรายใหม่ในอังกฤษเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ผู้เสียชีวิตไม่มาก อังกฤษใช้วัคซีนไวรัสเป็นพาหะ และเข็มกระตุ้นเป็นวัคซีนสารพันธุกรรม (mRNA)

ผู้ติดเชื้อรายใหม่ในอเมริกา ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าใกล้ถึงจุดสูงสุดใน 1-2 อาทิตย์ข้างหน้าในขณะที่ผู้เสียชีวิตไม่มาก อเมริกาใช้วัคซีน mRNA เป็นวัคซีนนำสองเข็มแรก และใช้เป็นเข็มกระตุ้นด้วย

ประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับประเทศไทย รวมทั้งอิหร่าน ที่มีการติดเชื้อจากธรรมชาติในอัตราสูงนำมาก่อน ก่อนจะมารับวัคซีนเชื้อตาย และสลับมารับวัคซีนที่ใช้ไวรัสเป็นพาหะ และ/หรือ วัคซีน mRNA เป็นเข็มกระตุ้น พบว่าได้ผลดีมาก มีผู้ติดเชื้อรายใหม่จากโอมิครอนและผู้เสียชีวิตต่ำ

ประเทศไทย มีการติดเชื้อจากธรรมชาติไม่มาก ได้รับวัคซีนเชื้อตาย และสลับมารับวัคซีนที่ใช้ไวรัสเป็นพาหะ และ/หรือ วัคซีน mRNA เป็นเข็มกระตุ้น ได้ผลดีเช่นกัน แม้จะเห็นผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นจากโอมิครอนแต่ผู้เสียชีวิตลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง

หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ไวรัสโคโรนา 2019 คงจะจบเกม (End game) กลายเป็นโรคประจำถิ่น (Endemic) เหมือนไข้หวัดใหญ่ ซึ่งมาตามฤดูกาล โดยมีผู้เสียชีวิตประมาณร้อยละ 0.1

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน