กรมการแพทย์ แนะ มีอาการหวัด-ถ่ายเหลว ตรวจATK ทันที หากผลเป็นลบ แต่ไม่ดีขึ้นใน 48 ชั่วโมง ให้รีบไปโรงพยาบาล ห่วง อาจเจอโรคอื่น

วันที่ 11 มี.ค.2565 นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวถึงอาการของผู้ป่วยโควิด 19 ในปัจจุบันที่เป็นสายพันธุ์โอมิครอน ว่า ขณะนี้ผู้ติดเชื้อโควิดส่วนใหญ่ 50% ไม่มีอาการ ส่วนที่มีอาการจำแนกเป็น ไอและเจ็บคอ 50% อ่อนเพลีย เป็นไข้ 30-40% และถ่ายเหลว 10% ทั้งนี้ อาการโควิดใกล้เคียงกับโรคไข้หวัดแล้ว แต่ช่วงนี้ที่ต้องระวังเพิ่มขึ้นอาจจะเจอโรคไข้เลือดออกได้ ซึ่งจะมีอาการไข้ อ่อนเพลียเหมือนกัน

นพ.สมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ดังนั้น หากสงสัยว่าตัวเองมีอาการคล้ายไข้หวัดหรือแม้แต่ถ่ายเหลว เบื้องต้นให้ตรวจ ATK ได้ทันที หากเป็นผลลบให้สังเกตอาการตัวเองใน 48 ชั่วโมง ถ้ายังไม่ดีขึ้นให้ไป รพ.เพื่อให้แพทย์วินิจฉัยอาการโรคอื่น ๆ เช่น ไข้เลือดออก อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือการป้องกันติดเชื้อสูงสุด ติดเชื้อแล้วก็ต้องกักตัวเอง เพราะแม้จะไม่มีอาการรุนแรง แต่หากไปพบคนอื่นที่ภูมิต้านทานน้อย มีโรคร่วมก็จะมีความเสี่ยง

นพ.สมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนการดูแลผู้ติดโควิดแบบผู้ป่วยนอก (OPD) พื้นที่ กทม. รพ.สังกัดกรมการแพทย์ใน กทม. เช่น รพ.ราชวิถี รพ.เลิดสิน รพ.นพรัตนราชธานี รองรับผู้ติดเชื้อได้วันละ 1,000 ราย ทั้งจาก 1.คลินิกโรคไข้หวัด (ARI Clinic) ซึ่งผู้ติดเชื้อ 70% เลือกรักษาแบบ OPD และอีก 20-30% เลือกรักษาแบบ HI และ 2.การออก QR Code เพื่อให้ผู้ป่วยเก่าส่งต่อให้ผู้อื่นเพื่อเข้าระบบบริการ สัดส่วนเลือกรักษาแบบ OPD 60% และรักษา HI อีก 30-40% อย่างไรก็ตาม เรากำลังทำ QR Code ส่วนกลางขึ้นมาแบ่งเบาภาระสายด่วน 1330 ให้ได้วันละ 1-2 พันราย

“เรากำลังเข้าสู่การเปลี่ยนเป็นโรคประจำถิ่น จึงต้องปรับเปลี่ยนการดูแล เน้นรักษาที่บ้าน (HI) และแบบ OPD ซึ่งเดิม HI เราบริการอาหาร 3 มื้อ เพื่อลดการออกไปซื้ออาหารนอกบ้าน ส่วน OPD มีการติดตามใน 48 ชั่วโมง และไม่มีบริการอาหาร 3 มื้อ เนื่องจากเราประเมินความพร้อมของผู้ป่วยด้วย เช่น มีญาติส่งอาหาร หรือผู้ป่วยสั่งอาหารเองได้ ก็ให้อยู่ในบ้านดูแลตัวเอง เป็นตามปรับตามสถานการณ์” นพ.สมศักดิ์ กล่าว

เมื่อถามถึงความพร้อมของ รพ. เพื่อรองรับ UCEP Plus กลุ่มอาการสีเหลือง-แดง นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ทุก รพ.รองรับได้อยู่แล้ว ทั้ง รพ.รัฐ และเอกชน แต่ที่กังวลคือ กลุ่มสีเขียวที่อาการเปลี่ยนแปลง อาจจะต้องจัดระบบที่ดีจากสิทธิสุขภาพนั้น ๆ เช่น บัตรทอง ประกันสังคม ต้องประกาศเกณฑ์ให้ชัดเจนว่า หากติดเชื้อแล้วมีอาการเปลี่ยนแปลง ผู้ป่วยสามารถเข้า รพ.ในเครือข่ายได้ทุกแห่งหรือไม่อย่างไร ซึ่งต้องรอการประกาศเกณฑ์ตรงนี้

นพ.สมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนอาการที่บ่งบอกว่าเป็นสีเหลือง สีแดงที่เข้า UCEP Plus นั้น กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) จะเป็นผู้ประกาศ UCEP Plus ให้มีผลบังคับใช้ โดยตกลงกับสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) โดยกรมการแพทย์ให้ข้อมูลทางวิชาการไปแล้ว เพื่อจัดระบบบริการฉุกเฉินต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน