‘คำ ผกา’ ชี้ ควรมูฟออนจากฟาวิ ไปใช้โมลนูพิราเวียร์ รักษาผู้ป่วยโควิดได้แล้ว ยันใช้ได้กับคนเริ่มติดโควิด อาการไม่รุนแรง ไม่มีผลต่อ ตับ ไต
15 ก.ค. 2565 – จากกรณี ชมรมแพทย์ชนบท ได้ออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ตั้งคำถามถึงเรื่องการขาดแคลนยาฟาวิพิราเวียร์ พร้อมแช็ตไลน์ที่อ้างว่าเป็นของผู้ใหญ่ในกระทรวงสาธารณสุข ส่งถึงผู้อำนวยการโรงพยาบาล และสาธารณสุขจังหวัด ให้สำรองยาฟาวิฯไว้เผื่อผู้ป่วยโควิด ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี เนื่องจากขณะนี้โรงพยาบาลทั้งประเทศ มียาสำรองเหลือเพียงประมาณ 7 วัน จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในโลกออนไลน์
ล่าสุด อั๋น ภูวนาท และ “แขก” คำ ผกา ได้มาพูดคุยถึงประเด็นร้อนดังกล่าวในรายการ “ข่าวจบคนไม่จบ” ทางช่องทาง ข่าวสดออนไลน์
คำ ผกา ระบุว่า อย่างแรก คนที่ติดโควิดไม่ทุกคนที่ต้องใช้ฟาวิ ฉะนั้นต้องมีการทำตัวเลขมาว่า คนติดที่ไม่แสดงอาการเท่าไหร่ คนติดแต่แสดงอาการเท่าไหร่ คนกลุ่ม 608 อาการหนักมีกี่คน เมื่อคุณได้ตัวเลขมาก็ได้จำนวนที่ต้องกระจายยาในแต่ละพื้นที่ได้ เราก็ส่งยาให้เขา ซึ่งไม่น่าเหลือบ่ากว่าแรง
ประเด็นต่อมามียาตัวใหม่มาแล้วคือ ยาโมลนูพิราเวียร์ ใช้ได้กับคนเริ่มติดโควิด อาการไม่รุนแรง ไม่มีผลต่อ ตับ ไต
วันนี้สิ่งที่เราควรคุยกันคือเลิกใช้ฟาวิ แล้วมาใช้ ยาโมลนูพิราเวียร์ แทน บริษัทที่เขาวิจัยยาชนิดนี้ เขามอบลิขสิทธิ์ฟรีให้ประเทศที่ยากจน ให้ผลิตเอง หรือซื้อได้ในราคาถูก ตนก็ไม่เข้าใจว่าเราตกขบวนไปได้ยังไง วันนี้อินเดียผลิตโมลนูพิราเวียร์เองได้ ลาวซื้อจากประเทศอื่น ๆ ที่ได้ลิขสิทธิ์ฟรีมาจากบริษัทที่มอบให้ ราคาก็ตกที่ 600-1,000 บาท แต่ในขณะที่ไทยต้องซื้อหมื่นกว่าบาทในโรงพยาบาลเอกชน ที่สำคัญ อย.ไทย ไม่ขึ้นทะเบียนโมลนูพิราเวียร์สักที
เมื่อ อย. ไม่ขึ้นทะเบียน กทม. ก็ซื้อโมลนูพิราเวียร์เองไม่ได้ ทั้งประเทศก็ไม่สามารถซื้อได้ อันนี้ต่างหากที่เป็นปัญหายิ่งกว่าไม่มียาฟาวิไปให้ผู้ป่วย
เรานำเข้ายาโมลนูพิราเวียร์ 5 หมื่นครอส 500 ล้านบาท คำถามคือแล้วใครได้ยาจำนวนนี้ที่นำเข้าบ้าง แล้วเมื่อไหร่ อย. จะขึ้นทะเบียน เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือใครต่อใครซื้อได้เอง ถ้ากระทรวงสาธารณสุขชี้แจงเรื่องนี้ได้จะเป็นพระคุณมาก
