สืบ บก.น.5 ทลายแก๊งลักรถจยย. รายใหญ่ก่อเหตุลักบิ๊กไบก์ทั่วกรุง พบเงินบัญชีหมุนเวียนกว่า 3 ล้าน ลุยขยายผลเครือข่าย ผู้รับซื้อส่งขายรถจยย. ขายข้ามชาติ

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 ม.ค. 2564 ที่บช.น. พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น. พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รองผบช.น. พล.ต.ต.สำราญ นวลมา รองผบช.น. พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ ผบก.น.5 พ.ต.อ.ปนาถพล ปุณศรี รองผบก.น.5

สั่งการให้พ.ต.อ.จิรกฤต จารุนภัทร์ ผกก.กก.สส.บก.น.5 พ.ต.ท.กิจฐิพงศ์ ชูเมือง พ.ต.ท.ทองเปลว หาญไพบูลย์ พ.ต.ท.พชรชัย ปาณธดิษ รองผกก.กก.สส.บก.น.5 และเจ้าหน้าที่ตำรวจกก.สส.บก.น.5 แถลงจับกุมนายสถาพร ธารารัตน์ หรือเนย อายุ 23 ปี นายพงศ์ศักดิ์ เทียมศิริเจริญ หรือก้อง อายุ 20 ปี นายปรเมท ตรีรัตน์ หรือปาล์ม อายุ 18 ปี นายอนุรักษ์ แซ่อือ หรือเอ๊าะ อายุ 36 ปี นายวรุฒ แซ่อือ หรือแซม อายุ 26 ปี

พร้อมของกลางรถจยย. 10 คัน รถยนต์ 2 คัน แผ่นป้ายทะเบียน 15 แผ่น แผ่นป้ายเสียภาษี 1 แผ่น เหล็กแหลมสำหรับทำลายรูกุญแจ 10 อัน ประแจตัวที 3 อัน เบ้ากุญแจ 3 อัน แท่งฝังแม่เหล็กหัวท้าย สำหรับเปิดช่องรูกุญแจ 2 อัน และอุปกรณ์และอะไหล่รถจยย. จับกุมได้ที่บ้านเช่าเลขที่ 127/1 ซอยบางกระดี่ 1 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ

สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเดือนพ.ย. 2563 ถึงวันที่ 18 ม.ค. 2564 สน. ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และในเขตพื้นที่บก.น.5 รับแจ้งเหตุรถจยย. หายเป็นจำนวนมาก โดยกลุ่มคนร้ายมีประมาณ 5 คน ตระเวนลักรถจยย. ชุดสืบสวนบก.น.5 จึงได้ทำการสืบสวนไล่ติดตามภาพกล้องวงจรปิดจากบริเวณที่เกิดเกิด

จนทราบว่าคนร้ายได้นำรถจยย. ที่ลักมาจากพื้นที่สน.พระโขนง และสน.บางนา มาซุกซ่อนภายในบ้านเช่าเลขที่ 127/1 ซอยบางกระดี่ 1 แขวงแสมดำ เมื่อตรวจสอบเหตุรถหายในพื้นที่ต่าง ๆ เพิ่มเติมพบว่าในพื้นที่สน.แสมดำ เองมีการแจ้งความรถหายเหตุที่หอพักแห่งหนึ่งซอยสะแกงาม 14 แขวงแสมดำ

ต่อมาเวลาประมาณ 12.30 น. วันที่ 18 ม.ค. 64 เห็นคนร้ายนำรถจยย. ที่โจรกรรมไปออกมาจากบ้านเช่าหลังดังกล่าว เชื่อว่าคนร้ายจะนำออกไปขาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำกำลังเข้าจับกุมตัวคนร้ายพร้อมของกลางได้ทั้งหมด

จากการสอบสวนทราบว่า มีการแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจนโดยนายสถาพร ทำหน้าที่เป็นคนคุ้มกัน
นายปรเมท ทำหน้าที่เป็นคนแทงคอรถ นายพงศ์ศักดิ์ และนายวรุฒ ทำหน้าที่เป็นคนขี่รถจยย. กลับมาที่บ้านพัก หลังจากได้ลักรถจยย. ได้ก็จะถอดทะเบียนนำไปทิ้งในน้ำ หรือตามข้างทาง

โดยมีนายวรุฒ เป็นผู้ทำหน้าที่หาลูกค้าโดยส่งต่อนายหน้ารับซื้อส่งขายไปยังชายแดนประเทศเมียนมา นอกจากนี้ยังรับสารภาพว่าเคยก่อเหตุในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และพื้นที่ใกล้เคียง ในห่วง 7-8 เดือนที่ผ่านมามากกว่าร้อยครั้งได้รถจยย. มากกว่า 300 คัน ซึ่งจากการตรวจสอบบัญชีของกลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าวพบว่ามีเงินหมุนเวียนกว่า 3 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสืบสวนขยายผลจับกุมผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในขบวนการอีกครั้ง เนื่องจากอยู่ระหว่างตรวจสอบว่านายหน้าที่รับซื้อขายรถดังกล่าวมีใครที่เกี่ยวข้อง คาดว่าผู้รับซื้อรถจยย. ไปน่าจะเป็นคนทำกิจการซื้อขายรถจยย. และอาจจะมีเงินในบัญชีหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 20-30 ล้านบาท เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งสน.แสมดำ ดำเนินคดีตามกฎหมาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน