แม่แจ้งจับหัวหน้าคนงาน ขืนใจลูกสาว วัย 13 เกือบ 10 ครั้ง ขู่ฆ่าห้ามบอกใคร ก่อเหตุนานนับเดือนจนลูกสาวมีอาการซึม เมื่อเค้นถามจึงยอมบอก

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 26 ม.ค. 2564 พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผบก.น.9 พร้อมด้วย พ.ต.อ.นครินทร์ สุคนธวิท รอง ผบก.น.9 และ พ.ต.อ.สมยศ อุดมรักษาทรัพย์ ผกก.สน.เทียนทะเล นำกำลังฝ่ายสืบสวนเข้าจับกุม นายวิรัตน์ แสงทอง อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60 หมู่ 9 ต.ท่าขมิ้น อ.โพทะเล จ.พิจิตร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ข้อหากระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกินสิบสามปี โดยรวบตัวได้ที่บ้านพักคนงานก่อสร้างในซอยเทียนทะเล 22 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กทม.

ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเช้าวันที่ 25 ม.ค. 2564 นางออม (นามสมมุติ) อายุ 43 ปี อาชีพคนงานก่อสร้าง ได้พา ด.ญ.เจน (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี บุตรสาวนักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.นครสวรรค์ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.เทียนทะเล ว่า ตนเป็นแม่หม้ายสามีตาย และมีลูกสาว 2 คน คนโตชื่อ น.ส.แนน (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ส่วนคนเล็กชื่อ ด.ญ.เจน (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี ก่อนหน้านี้ลูกๆ ทั้ง 2 คน อาศัยและเรียนหนังสืออยู่ที่ จ.นครสวรรค์ ส่วนตนมารับจ้างเป็นคนงานก่อสร้างตามไซต์งานในกรุงเทพฯ

นางออม กล่าวต่อว่า ระยะหลังโรงเรียนปิดเพราะสถานการณ์ของโรคโควิด-19 จึงรับตัวลูกสาวทั้ง 2 คน มาพักที่แคมป์คนงานด้วยกัน ตั้งแต่ช่วงกลางเดือน ธ.ค.2563 ต่อมา ด.ญ.เจน มีอาการซึมลงอย่างเห็นได้ชัด พอคาดคั้นลูกก็ยอมเปิดปากเล่าความจริง ว่า ตั้งแต่วันที่ 17 ธ.ค.63 ถึงวันที่ 24 ม.ค.64 ถูกนายวิรัตน์ ซึ่งเป็นหัวหน้าคนงานพักอยู่ที่ห้องใกล้ๆ ในแคมป์เดียวกัน ลวงไปขืนใจในช่วงที่ตนออกไปทำงานกลางวันแสกๆ รวมแล้ว 9 ครั้ง

“นายวิรัตน์ ไม่เคยใส่ถุงยางอนามัยป้องกัน ทั้งยังข่มขู่ลูกสาวว่าห้ามไปบอกใคร ไม่เช่นนั้นจะใช้มีดเชือดคอให้ตาย ส่วนลูกคนโตก็ยอมรับว่าที่ผ่านมา นายวิรัตน์พยายามถูกเนื้อต้องตัว แต่ลูกสาวคนโตขัดขืนจึงรอดมาได้ สุดท้ายจึงตัดสินใจลาออกจากงาน พาตัวลูกสาวเข้าแจ้งความกับตำรวจ” นางออม กล่าว

ด้าน พ.ต.ท.ไพรัตน์ ญาโน รอง ผกก.สส.สน.เทียนทะเล เปิดเผยว่า หลังรับแจ้งความร้องทุกข์ เจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวเหยื่อไปตรวจร่างกายที่ รพ.ศิริราช แพทย์ระบุพบร่องรอยการถูกล่วงละเมิดทางเพศจริง จึงเชิญสหวิชาชีพมาร่วมสอบสวน และขออนุมัติหมายจับศาลอาญาธนบุรี เลขที่ 40/2564 ลงวันที่ 26 ม.ค.64 นำตัวนายวิรัตน์มาดำเนินคดีตามกฎหมาย

โดยถูกแจ้งข้อหาหนักประกอบด้วย 1.พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครองหรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจาร 2.พาเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจารแม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม และ 3.กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปีซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม หลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญาธนบุรี โดยแนบเรื่องคัดค้านการให้ประกันตัวด้วยเนื่องจากเกรงว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานและอาจมีพฤติกรรมไปรังควานเหยื่อและครอบครัว

ด้านพ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ แก้วนวล สว.สส.สน.เทียนทะเล กล่าวว่า สำหรับกรณีนี้เหยื่อมีอายุเพียง 13 ปี ทาง รพ.ศิริราช ได้รับไปอยู่ในความดูแลของมูลนิธิ เพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจก่อนในห้วงเวลาหนึ่ง ส่วนแม่เเละพี่สาวของเหยื่อซึ่งต้องลาออกจากงานและไม่มีที่อยู่ ได้ประสานให้เดินทางไปพักกับญาติก่อนในเบื้องต้น จนกว่าคดีจะสิ้นสุด

ดังนั้น จึงอยากฝากไปถึงทุกครอบครัวให้ช่วยกันดูแลบุตรหลานให้มากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในช่วงวิกฤติโควิด-19 จะต้องเฝ้าระวังกันไว้ให้ดี เด็กๆ ไม่ว่าชายหรือหญิงที่ต้องกักตัวอยู่บ้านเนื่องจากโรงเรียนปิดทั่วประเทศอาจตกเป็นเหยื่อให้มิจฉาชีพก่อเหตุในลักษณะนี้ขึ้นอีกก็เป็นได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน