พ่อ-ญาติเศร้า รับกระดูกสาว 19 ถูกแฟนหนุ่ม ม.6 อำพรางในป่า โต้กีดกัน หมั้นแค่ทอง 1 บาท ไม่มีเงิน 1 แสน รอ 3 ปีไม่มาแต่ง ไม่เชื่อทำคนเดียว
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
จากกรณี นายซี (นามสมมติ) นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.พิษณุโลก ก่อเหตุฆาตกรรมเผาอำพรางศพ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 19 ปี ซึ่งเป็นแฟนสาว กลางป่าลึกพื้นที่ ม.11 บ้านม่วงหอม ต.บ้านกลาง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก สาเหตุจากความหึงหวง ก่อนเดินทางเข้ามอบตัว เผยเพิ่งหมั้นแต่ยังไม่ได้แต่ง ฝ่ายหญิงพยายามตีตัวออกห่าง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
- อ่านข่าว ม.6 หึงโหด แฟนสาววัย19 นัดเคลียร์ไม่จบ ลงมือเหี้ยม ทิ้งอำพรางป่าลึก
- อ่านข่าว ตาเผยปม หลาน ม.6 ลงมือเหี้ยมกับแฟนสาว 19 ครอบครัวกีดกันทั้งที่เพิ่งหมั้น
- อ่านข่าว หนุ่มบุกแทง ม่ายสาว ผช.ทันตแพทย์ดับคาคลินิก ป้าเผยจงใจให้ได้ยินเสียงคุย
ล่าสุดวันที่ 9 มี.ค.64 ที่นิติเวช ร.พ.พุทธชินราช จ.พิษณุโลก นายบรรดิษฐ อายุ 52 ปี พร้อมด้วย น.ส.พิมพ์ชนกพ์ อายุ 39 ปี พ่อและพี่สาวของ น.ส.เอ พร้อมญาติ เดินทางมารับเถ้ากระดูกของ น.ส.เอ เพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลที่บ้าน
นายบรรดิษฐ กล่าวว่า ตอนนี้ตนและภรรยารู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก ที่ลูกสาวถูกแฟนหนุ่มฆ่าบีบคอจนเสียชีวิตแล้วนำศพไปเผาเพื่ออำพรางคดี ตนและภรรยายังติดใจว่าขั้นตอนการนำศพไปเผานั้น เชื่อว่าต้องมีคนที่ช่วยเหลือ ไม่ต่ำกว่า 3-4 คน เนื่องจากการเผากว่าจะไหม้ต้องใช้ยางรถยนต์หลายเส้น อยากให้สื่อมวลชนเป็นสื่อกลางที่จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำคดีด้วยความเป็นธรรม และหาผู้กระทำผิดเพิ่ม ตนเชื่อว่าทำคนเดียวไม่ได้แน่นอน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนกระแสที่ทางญาติไปกดดัน ไม่ให้ นายซี มารักใคร่กับลูกสาว จนเป็นเหตุให้ก่อเหตุสะเทือนขวัญนั้น นายบรรดิษฐ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง เพราะว่า นายซี เคยมาหมั้นกับลูกสาวของตนจริง ด้วยทองทำหนัก 1 บาทเท่านั้น ไม่มีเงินแสนแต่อย่างใด ทางครอบครัวก็ไม่ได้ต่อว่าและรอให้ นายซี มาแต่งงานให้ถูกต้องอีกครั้ง ซึ่งรอมา 2-3 ปี ก็ยังไม่มีวี่แวว
แต่ก็เห็นว่าลูกสาวและ นายซี อยู่ด้วยกันไม่มีเรื่องอะไรกันมาก่อน ยังรักกันดีอยู่ จึงไม่ทราบว่า นายซี จะก่อเหตุทำร้ายร่างกายลูกสาวจนเป็นเหตุเสียชีวิต ไม่ทราบว่าจิตใจทำด้วยอะไร จึงอยากให้มาขอขมาศพ แต่พ่อและแม่ไม่ให้อภัยอย่างแน่นอน
ขณะที่ น.ส.พิมพ์ชนกพ์ กล่าวว่า ครอบครัวตนต้องมาสูญเสียน้องสาวไป โดยไม่มีลางบอกเหตุมาก่อน ตนและครอบครัว ยังติดใจในการนำร่างของน้องสาวไปเผา น่าจะมีหลายคนที่ช่วยกัน อยากขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชนให้ตำรวจทำงานด้วยความเที่ยงตรง และนำผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีเพิ่มเติม ส่วนผลการตรวจชันสูตรกระดูกของน้องสาวนั้น แพทย์จะส่งผลไปที่บ้านในภายหลัง แต่สามารถรับเถ้ากระดูกไปบำเพ็ญกุศลได้ ซึ่งตั้งใจจะบำเพ็ญกุศลที่บ้านไว้ 3 วัน แล้วจะฌาปนกิจต่อไป