กองปราบ รวบ ผัว-เมียโหด มือปืนรายสำคัญ ลวงเพื่อนร่วมงานฆ่าปิดปาก ฉุนกลัวถูกแฉขโมยน้ำมันนายจ้างขาย หนีคดีมา 15 ปีสุดท้ายไม่รอด
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 18 มี.ค. ที่ กองบังคับการปราบปราม พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ต.สุรศักดิ์ หญีตบึ้ง สว.กก.2 บก.ป. ช่วยราชการกก.1 บก.ป. แถลงจับกุม นายบุไพวัน (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี นางปนัดดา (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี สามีภรรยา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเลย ที่ 405/2549 ลงวันที่ 6 ธ.ค. 2549 และ หมายจับศาลจังหวัดเลย ที่ 104/2550 ลงวันที่ 16 มี.ค. 2550 ตามลำดับ ในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” หลังจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองได้ที่ บ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ดอนฉิมพลี อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา
- ด่วน! ศาลฎีกาพิพากษายืนประหารชีวิต ‘บังฟัต’ คดีฆ่า ‘ผู้ใหญ่บัติ’ ยกครัว 8 ศพ
- ผัวเก่า โหด! บุกคอนโดยิงดับเมียเก่า-ผัวใหม่เจ็บ ก่อนจบชีวิตตามคาเตียง
- รัว 17 นัด หนุ่มร่างพรุน ดับกลางสวนยางสะบ้าย้อย คาดนัดเจอก่อนลงมือ
พ.ต.ต.สุรศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 2549 ขณะที่ นายบุไพวัน และนางปนัดดา สามี-ภรรยา ยังทำงานเป็นลูกจ้างบริษัทซื้อขายน้ำมันแห่งหนึ่งใน จ.เลย ร่วมกันวางแผนลวง นายบุญมาก (สงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี ลูกจ้างร่วมบริษัทไปสังหาร โดยทำทีขับรถกระบะไปรับนายบุญมาก ที่บ้านพัก อ้างว่าจะพาไปซื้อน้ำมันกับลูกค้าข้างนอก
เมื่อขับมาถึงเส้นทางเปลี่ยวบริเวณหมู่บ้านผานาง ต.ผาอินทร์แปลงกิ่ง อ.เอราวัณ จ.เลย นายบุไพวัน ก็จอดรถข้างทางแล้วชักอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ขนาด .38 มม. ที่เตรียมมา ยิงนายบุญมากจนเสียชีวิต ก่อนจะช่วยกันนำศพไปทิ้งไว้ที่ป่าข้างทาง จากนั้นก็หลบหนีคดีเรื่อยมาเป็นเวลากว่า 15 ปี กระทั่งต่อมาเข้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่า ปัจจุบันได้ซ่อนตัวอยู่ใน จ.ฉะเชิงเทรา จึงเข้าจับกุมตัวได้ดังกล่าว
พ.ต.ต.สุรศักดิ์ กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 รายนี้ ให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุจริง เนื่องจากก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน เคยร่วมกับนายบุญมาก ทำการฉ้อโกงและปลอมแปลงบิลซื้อขายน้ำมันของบริษัท เพื่อนำน้ำมันออกไปขายให้คนนอก แต่เมื่อได้เงินมาแล้วกลับตกลงเรื่องส่วนแบ่งไม่ลงตัวจนเกิดมีปัญหากัน และกลัวว่านายบุญมาก จะนำเรื่องไปฟ้องนายจ้าง จึงช่วยกันลวงผู้ตายมาฆ่าปิดปากดังกล่าว เบื้องต้นจึงแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับก่อนนำตัวส่ง สภ.เอราวัณ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.ธงชัย กล่าวว่า อย่างไรก็ตามเนื่องด้วยพฤติกรรมการก่อเหตุที่ค่อนข้างอุกฉกรรจ์ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย จึงทำให้ชื่อของผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ถูกจัดอยู่ในรายชื่อปฏิทินมือปืน และ ผู้ต้องหารายสำคัญตามหมายจับของสำนักงานตำรวจแห่งชาติประจำปี2564 โดยอยู่ในลำดับที่ 64 และ65 จากรายชื่อทั้งหมด 240 คน และจากการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 รายดังกล่าว ทำให้ยอดรวมการติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดของรายชื่อปฏิทินมือปืนขณะนี้ สามารถจับกุมไปได้แล้ว 16 ราย และหลังจากนี้กองปราบเองยังคงเดินหน้าติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับปฏิทินมือปืนเหล่านี้ต่อไปเพื่อคืนความยุติธรรมให้กับญาติของเหยื่อทุกรายอีกด้วย
