ตำรวจป่าไม้ ยืนยันบริษัทดัง เป็นเจ้าของไม้พะยูง 160 ล้าน หลังโดนอายัด 15 ปี พร้อมทำหนังสือไปยังสถานทูตสปป.ลาว ตรวจสอบมีสิทธิรับไม้ของกลางคืน

จากกรณีตัวแทน บริษัท พงสะหวัน จำกัด ของ สปป.ลาว เข้าดูไม้พะยูงอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ 11 ตู้ มูลค่ากว่า 160 ล้านบาท แต่กรมศุลกากรไม่อนุญาต เพราะมีมาตรการคุมการระบาดโควิด-19 ตัวแทนบริษัท จึงเข้าไปที่สำนักงานเก็บรักษาไม้ของกลาง เพื่อขอคำชี้แจง ขณะเดียวกันมีผู้รับมอบอำนาจจากรัฐบาล สปป.ลาว ไปที่ด่านศุลกากรด้วยเช่นกัน พร้อมอ้างสิทธิ์ว่าไม้พะยูงทั้งหมดเป็นของทางการ สปป.ลาว ไม่ใช่ของบริษัทเอกชนนั้น

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 13 เม.ย. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม ผบก.ปทส เปิดเผยว่า ตนมาปฏิบัติหน้าที่วันที่ 1 ต.ค.63 ที่ผ่านมา ภายหลังคดีเกี่ยวกับไม้พะยูงดังกล่าวสิ้นสุดแล้ว เหลือการพิจารณาการคืนของกลาง อัยการสั่งให้พนักงานสอบสวน บก.ปทส. ดำเนินส่งมอบของกลางคืน โดยบก.ปทส. จึงพิจารณาพยานหลักฐานในรูปคณะกรรมการ เพื่อตรวจสอบหาเจ้าของกรรมสิทธิ์ในไม้ดังกล่าว

“จนมีพยานหลักฐานชัดเจนว่า เจ้าของไม้พะยูงที่แท้จริง คือบริษัท พงสะหวัน จำกัด Phongsavanh wood industy ซึ่งเป็นนิติบุคคลที่มีสิทธิเรียกร้องขอคืน ที่ปรากฏหลักฐานใน Certificate of Origin และ Wood of list อันเป็นที่มาของไม้พะยูงของกลางในสำนวนการสอบสวน พร้อมทั้งได้มีหนังสือไปยังสถานทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) และกรมเอเซียตะวันออก กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อตรวจสอบยืนยันผู้มีสิทธิในการรับไม้ของกลางคืน” ผบก.ปทส. กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 6 ส.ค.49 จนท.ป่าไม้จังหวัดมุกดาหาร ได้จับกุมและตรวจยึดไม้พะยูงผ่านแดนจากสปป.ลาว และพนักงานอัยการ มีคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา พร้อมทั้งแจ้งให้พนักงานสอบสวนจัดการไม้พะยูงของกลางตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม.85 แต่ต่อมากรมป่าไม้ขอรื้อฟื้นคดีดังกล่าวใหม่ จึงให้ชะลอการคืนไม้ของกลาง เพื่อรอฟังผลคดี ซึ่งในที่สุดศาลฎีกามีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 8 ต.ค.62 ให้ยกฟ้องจำเลย ดังนั้น พนักงานสอบสวน บก.ปทส. จึงต้องจัดการไม้พะยูงของกลางตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม.85

ต่อมาในวันที่ 2 ธ.ค.63 กรมศุลกากรมีหนังสือแจ้งสำเนาคำสั่งศาลฎีกาในคดีนี้และให้พนักงานสอบสวน บก.ปทส. ไปรับไม้พะยูงของกลางคืน เนื่องจากเห็นว่าคดีนี้กรมป่าไม้ได้ไปร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ส่วนกรมศุลกากรเป็นเพียงผู้ดูแลรักษาไม้พะยูงของกลางตามคำสั่งอายัดของพนักงานสอบสวน ดังนั้นบก.ปทส.จึงรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อพิจารณาคืนให้กับผู้มีสิทธิที่แท้จริง

สำหรับการคืนไม้พะยูงของกลางมีระยะเวลาการพิจารณากันมาอย่างยาวนาน โดยมีผู้ขอคืนไม้ของกลางรวม 3 ราย ประกอบกับเมื่อกรมศุลกากรมีหนังสือเร่งรัดให้พนักงานสอบสวนไปรับไม้ของกลางคืน บก.ปทส.จึงได้ตรวจสอบจากพยานหลักฐานเอกสารที่ยืนยันจากหน่วยงานราชการของสปป.ลาว แล้วปรากฏว่าบริษัท Phongsavanh wood industy จึงได้พิจารณาคืนไม้ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค.63 และขณะนี้อยู่ระหว่างติดต่อขอรับไม้คืนจากกรมศุลกากร โดยผู้รับคืนต้องเสียค่ารักษาดูแลเป็นเงินถึง 13 ล้านบาท

รายงานข่าวระบุว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศมีหนังสือลงวันที่ 19 ม.ค.64 แจ้งให้ทราบว่าเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.63 ที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศ สปป.ลาว มีหนังสือตอบว่ากรณีไม้พะยูง 11 ตู้คอนเทนเนอร์ได้เป็นปัญหามายาวนานแล้ว และรัฐบาล สปป.ลาว ไม่มีความประสงค์จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ อีกทั้งมิได้มอบสิทธิให้บุคคลใด เพื่อไปติดต่อขอไม้ดังกล่าว ดังนั้นกรณีที่ได้ปรากฏตามภาพสื่อต่างๆ ว่ามีการอ้างว่าได้รับมอบอำนาจจากรัฐบาล สปป.ลาว ในการติดต่อขอคืนไม้พะยูง บก.ปทส. จะได้รายงานให้ สปป.ลาว ทราบถึงกรณีมีผู้แอบอ้างดังกล่าว หาก สปป.ลาว พิจารณาแล้ว ได้รับความเสียหาย สามารถดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องได้ต่อไป

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน