เดือดเลือดสาด หลานเขย เมาหูแว่ว คิดว่าถูกอาด่า ปรี่ทำร้ายร่างกาย น้องทนไม่ไหว คว้ามีดแทงสวน เมียโดดห้ามเจอลูกหลงกลาง ตำหนักกวนอิม
วันที่ 30 ก.ย.2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองจันทบุรี เปิดเผยว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ใช้มีดทำร้ายร่างกายกันภายในตำหนักเจ้าแม่กวนอิม ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.ท่าช้าง อ.เมือง จ.จันทบุรี หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองจันทบุรี เจ้าหน้าที่กู้ภัย สมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถานจันทบุรี
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น ตั้งเป็นตำหนักพระแม่กวนอิม ภายในห้องนอนชั้นล่างพบผู้บาดเจ็บ 2 รายชื่อ นายเกียรติศักดิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี มีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีดเข้าที่ใต้ราวนมขวา บาดเจ็บนอนจมกองเลือดอยู่บนที่นอน ใกล้กันพบร่างของ น.ส.วิลัยทอง (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี ภรรยา บาดเจ็บถูกอาวุธมีดฟันเข้าตามลำตัว แขน และขา จำนวนหลายแห่ง
หลานเขย เมาหูแว่ว คิดว่าถูกอาด่า ปรี่ทำร้ายร่างกาย น้องทนไม่ไหว คว้ามีดแทงสวน เมียโดดห้ามเจอลูกหลงกลาง ตำหนักกวนอิม
เจ้าหน้าที่จึงเร่งปฐมพยาบาลและนำส่งโรงพยาบาลพระปกเกล้าฯ นอกจากนี้ ยังพบผู้บาดเจ็บอีก 1 รายชื่อ นายศักดิ์สิทธิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี เจ้าของบ้าน สภาพบริเวณดวงตาขวาบวมปูดจากการถูกชกต่อย และพบขวดสุราวางอยู่บนโต๊ะในห้องนอนที่เกิดเหตุ
จากการสอบถาม น.ส.วิลัยทอง เปิดเผยว่า สาเหตุเกิดจากช่วงค่ำของวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา นายเกียรติศักดิ์ได้ดื่มเหล้าจนเกิดอาการมึนเมา และหูแว่ว ได้ยินว่า นายศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งมีศักดิ์เป็นอา ที่นอนคุยโทรศัพท์อยู่ในบ้าน ด่าทอต่อว่า จึงปรี่เข้าไปทำร้ายชกต่อย ซึ่งตนได้พยายามเข้าขวางและห้ามปราม แต่นายเกียรติศักดิ์ไม่ยอมหยุด
น.ส.วิลัยทอง เปิดเผยต่อว่า ขณะที่น้องชายของตนที่เห็นเหตุการณ์และทนไม่ไหวที่เห็นอาถูกทำร้าย
จึงคว้ามีดตรงเข้าไปจะแทงนายเกียรติศักดิ์ ตนจึงได้เข้าไปแย่งมีด จนเกิดเหตุการณ์ชุลมุนกันขึ้น ขณะนั้น ตนถูกลูกหลงโดนคมมีดแทงเข้าที่ต้นคอและศีรษะ จึงร้องเสียงดังด้วยความเจ็บปวด ทำให้ทุกคนต่างแยกกันออกมา และพบว่านายเกียรติศักดิ์ถูกมีดแทงเข้าที่ใต้ราวนมบาดเจ็บ ส่วนนายศักดิ์สิทธิ์บาดเจ็บที่ตาขวา ส่วนน้องชายของตนไม่ได้รับบาดเจ็บ จึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือดังกล่าว
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกภาพที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะมีสอบปากคำผู้บาดเจ็บ รวมถึงผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมด เพื่อแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนทำให้ได้รับบาดเจ็บ ก่อนส่งผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
