ผบ.ตร.รับ ผลสอบระบุ ศาลส่งหมายจับเสี่ยโจ้ ให้ตำรวจแล้ว เร่งสืบสวนขยายผล ใครบกพร่องทางวินัย วอนเป็นความผิดส่วนบุคคล ภาพรวมองค์กรยังทำงานให้กระจ่าง

วันที่ 17 พ.ย.2564 พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบหมายจับศาลจังหวัดปัตตานีของนายสหชัย (สงวนนามสกุล) หรือเสี่ยโจ้ ปัตตานีว่า ทางกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ได้รายงานมาแล้วว่าในชั้นต้น เชื่อว่ามีการส่งหมายจับให้ตำรวจจริง ตั้งแต่วันที่ 9 ต.ค.2557 มีเจ้าหน้าที่รับไว้ แต่จะดำเนินการอย่างไร ต้องสอบวินัยกันต่อไปจากนี้

เบื้องต้นจากการพูดคุยกันอาจมีเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในข่ายที่จะต้องถูกสอบสวนข้อเท็จจริงทางวินัย ซึ่งทางจเรตำรวจแห่งชาติจะพิจารณาประมวลเรื่องเสนอมาว่ามีใครบ้าง

ส่วนกรณีที่ได้สั่งให้สำนักงานกฎหมายและคดี(กมค.) ไปสำรวจมาว่าคดีที่เสี่ยโจ้เข้าไปเกี่ยวข้องว่ามีกี่เรื่องนั้น ตอนนี้รายงานอย่างไม่เป็นทางการที่ได้พูดคุยในเบื้องต้นมีอยู่ประมาณ 14 คดี สอบสวนเสร็จแล้ว 11 คดี เหลืออีก 3 เรื่อง คือ 1.การสั่งสอบเพิ่มเติมเรื่องการค้าน้ำมันหมื่นกว่ารายการ ซึ่งอยู่ในความดูแลของศูนย์ปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง จะไปเร่งรัดว่าได้ดำเนินการไปถึงไหนแล้ว ทั้งนี้เข้าใจว่ามีรายละเอียดกว่าหนึ่งหมื่นรายการ ได้ทำไปถึงไหนแล้ว ติดปัญหาอะไรบ้าง

2.เรื่องการฟอกเงิน ซึ่งพนักงานอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง และเรื่องส่งมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อเดือนกันยายน ที่ผ่านมา โดยวันที่ 11 พ.ย. ทางพล.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง รองผบ.ตร. ก็ได้มีความเห็นแย้งไป และ 3.คดีที่อยู่ในอำนาจการสอบสวนของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ถึงวันนี้

ส่วนหมายจับที่ยังใช้ได้คือของศาลจังหวัดปัตตานีที่บังคับให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ที่สั่งจำคุก 1 ปี 9 เดือน ก็ต้องไปติดตามจับกุมตัวมาให้ได้ จะไปไหนก็ต้องติดตามจับ

อยากให้เข้าใจว่าคนที่บกพร่อง ก็เป็นการบกพร่องโดยตัวบุคคล ไม่ใช่หน่วยงาน ไม่ใช่ภาพรวมของตำรวจ จะเห็นว่าเรื่องนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติตั้งใจที่จะทำให้มันกระจ่าง เพราะว่าตอนนี้เราปราบปรามน้ำมันเถื่อน เราก็จับมาโดยตลอด ใครที่เกี่ยวข้องจะเป็นอดีตเก่าอะไรแค่ไหนเราก็จับ เรื่องที่ผ่านๆ มาจะกี่ปีกี่ชาติก็ต้องไปรื้อมาดูให้เรียบร้อย

ขอรับปากว่าจะทำให้เรียบร้อยจะเป็นอดีตไหนไม่รู้ ก็ต้องทำให้เรียบร้อยให้ปรากฏข้อเท็จจริงให้ชัดเจน ใครผิดก็ลงโทษไป ไม่ได้มีปัญหาอะไร รายละเอียดก็บอกไปแล้วว่าหน่วยที่เกี่ยวข้องก็ต้องลงไปและให้ข้อมูลข้อเท็จจริงกับประชาชนเป็นครั้งคราว อย่าให้ไปวิจารณ์กันเอาเอง เดี๋ยวจะเข้าใจกันผิด เชื่อว่าในวันที่ 18 พ.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 จะมีรายละเอียดแถลงให้สื่อมวลชนทราบต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน