สืบนครบาล นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกจับ พ่อหื่น ย่ำยีลูกสาวแท้ ๆ วัย 14 ปี ก่อนหลบหนีคดีนาน 7 ปี คุมตัวส่ง สน.บางเขน ดำเนินคดีตามกฎหมาย

วันที่ 27 ธ.ค.2564 พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.บช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.สราวุธ คนใหญ่ รอง ผบก.สส.บช.น. สั่งการให้ พ.ต.ต.ทศรัศมิ์ กิติธารา สว.กก.วิเคราะห์และเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. นำกำลังเข้าทำการจับกุมตัว นายราตรี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1981/2557 ลงวันที่ 11 พ.ย.2557

ในความผิดฐาน “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภริยาของตน โดยเด็กหญิงนั้นไม่ยินยอม โดยใช้กำลังประทุษร้ายและกระทำต่อผู้สืบสันดาน” โดยจับกุมได้ที่หน้าบ้านไม่มีเลขที่ ถ.บ้านวังข่า-วัดสิงห์ทอง ต.ท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.ที่ผ่านมา เวลา 20.00 น.

สืบนครบาล นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกจับ พ่อหื่น ย่ำยีลูกสาวแท้ ๆ วัย 14 ปี ก่อนหลบหนีคดีนาน 7 ปี

สืบนครบาล นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกจับ พ่อหื่น ย่ำยีลูกสาวแท้ ๆ วัย 14 ปี ก่อนหลบหนีคดีนาน 7 ปี

สืบเนื่องจากเมื่อปี พ.ศ.2557 ขณะนั้นนายราตรี มีภรรยาและลูกสาว 1 คน ที่แยกกันอยู่ โดยปกติลูกสาวจะอยู่กับแม่ วันที่เกิดเหตุลูกสาว อายุ 14 ปีในขณะนั้น ได้เดินทางมายังบ้านพักคนงานบริเวณซอยพหลโยธิน 54 (สายไหม) เพื่อมาพบนายราตรี ซึ่งทำงานประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป และรับเหมาก่อสร้างซึ่งเป็นพ่อโดยชอบด้วยกฎหมาย โดยปกติตัวลูกสาวมาพบพ่อเป็นประจำช่วงเวลาวันหยุด ต่อมาได้ถูกนายราตรีซึ่งขณะเกิดเหตุมึนเมาจากการดื่มสุรา ได้ทำร้ายลูกสาว และใช้กำลังชำเราเด็กหญิงเอ โดยเด็กหญิงเอไม่ยินยอม

ต่อมาเด็กหญิงเอซึ่งอยู่ในอาการหวาดกลัวแจ้งเรื่องที่ถูกนายราตรีข่มขืนให้แม่ทราบเรื่อง แม่จึงมาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับนายราตรี และออกหมายจับเพื่อติดตามจับกุมนายราตรีมาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยหลังจากก่อเหตุนายราตรีได้หลบหนีคดีมาเป็นเวลากว่า 7 ปี โดยประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไปโดยอาศัยอยู่ตามไซด์งานก่อสร้างและย้ายที่อยู่บ่อยครั้งเพราะกลัวว่าจะมีคนจำได้ เนื่องจากช่วงที่ก่อเหตุนั้นคดีนี้เป็นข่าวดัง

โดยนายราตรีใช้ชีวิตแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ มาโดยตลอดเพราะกลัวว่าตนเองจะถูกจับกุม จนกระทั่งถูกติดติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว เบื้องเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางเขน ดำเนินคดีตามกฎหมาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน