ทนายตั้มให้ปากคำตำรวจ คดีอุ้มรีดเงิน รับผู้เสียหายยังหวาดกลัว ติดต่อไม่ได้ คาดเจ้าของเว็บมีเอี่ยว ชมเจ้าหน้าที่ทำงานไว ไม่นานน่าจะจับได้หมด

วันที่ 2 เม.ย.2565 นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความเข้าพบตำรวจสน.บางนา ให้ปากคำในคดีอุ้มรีดเงิน 4 แสนบาท จากผู้เสียหายที่เล่นพนันจากเว็บออนไลน์ โดยนายษิทราเผยว่า ผู้เสียหายยังหวาดกลัว และตนเชื่อว่าผู้บงการใหญ่น่าจะไม่ใช่พ.ต.ต.คม รอดเภา สว.(สอบสวน) บช.สอท. ที่มามอบตัวเมื่อเช้า แต่อาจเป็นเจ้าของเว็บพนันเอง

นายษิทรา เผยว่า วันนี้ตนเดินทางมาพร้อมแม่ของผู้เสียหายทั้งสองคน เดินทางเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนและมาชี้รูปผู้ต้องสงสัย ว่ามีใครกระทำความผิดเพิ่มเติมบ้าง โดยตำรวจได้สอบถามตนในประเด็นที่สองสามีภรรยา ผู้เสียหายเข้ามาหาและพูดคุยเล่าเหตุการณ์อย่างไรบ้าง และประสานให้ผู้เสียหายทั้งคู่มาให้การเพิ่มเติม พร้อมชี้รูป ในช่วงสัปดาห์หน้า

อ่านข่าว นอนคุก! ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว ‘สารวัตรคม’ หวั่นยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน

โดยทั้งสองคนยังกังวลในเรื่องของความปลอดภัย ก่อนหน้านี้ไม่ทราบว่าเป็นตำรวจจริงหรือไม่ แต่วันนี้ทราบแล้วว่าเป็นตำรวจจริง 2 คน ส่วนอีก 2 คนไม่ได้มาด้วย แต่ถูกใส่ชื่อเข้าไปในบันทึกจับกุม ส่วนที่เหลือเป็นพลเรือน

สำหรับผู้เสียหายทั้งสองคนขณะนี้ยังติดต่อไม่ได้ แม้แต่แม่ก็ยังติดต่อไม่ได้ มีเพียงเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา หนึ่งในผู้เสียหายได้โทรศัพท์ติดต่อมาหา แต่ตนไม่ได้รับสาย ก่อนจะโทร.กลับไปหาอีกฝ่าย แต่เขาก็ไม่ได้รับสายเช่นกัน เมื่อติดต่อไปทางแม่ผู้เสียหายก็ได้มีการพูดคุยและเชิญมาให้ปากคำพร้อมชี้รูปเพื่อใช้ประกอบสำนวนคดี

ทางผู้เสียหายกังวลเรื่องความปลอดภัยเป็นสำคัญ เนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจ ส่วนผู้เสียหายเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาจึงเป็นเรื่องปกติที่ต้องกลัว








Advertisement

ภายหลังจากการชี้รูปทางพยาน มองเห็นไม่ชัด ไม่สามารถยืนยันได้ว่า พ.ต.ต.คม ไปตรวจค้นด้วยหรือไม่ แต่ไม่ใช่สาระสำคัญแต่อย่างใด เพราะ พ.ต.ต.คม ได้รับสารภาพแล้วว่า เป็นคนจัดทำบันทึกและไปที่เกิดเหตุจริง เป็นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งในทางกฎหมายก็ต้องไปสู้กันในชั้นศาล ส่วนกรณีที่แม่ให้เงินไปกับใครนั้น ขอให้อยู่ในสำนวนการสอบสวนก่อนไม่สามารถเปิดเผยได้

ในส่วนของคดีไม่มีความกังวลแต่อย่างใด จากการพูดคุยกับ ผกก.สน.บางนา และทีมพนักงานสอบสวน ทราบว่าได้ออกหมายจับเพิ่มเติมแล้ว คาดว่าจะจับกุมผู้เกี่ยวข้องได้ครบทุกคน มั่นใจการทำงานของตำรวจ เนื่องจาก รอง ผบ.ตร.ลงมาดูคดีนี้ด้วยตัวเอง และหลังจากที่ได้โพสต์เรื่องนี้ลงโซเชียล ตำรวจใช้เวลาเพียง 2 วัน ตำรวจก็รู้ตัวผู้กระทำผิดแล้ว ซึ่งเป็นการทำงานที่รวดเร็วต้องขอชื่นชม

สำหรับ พ.ต.ต.คมนั้นส่วนตัวคาดว่าไม่ใช่ตัวการใหญ่ เป็นเพียงแค่มือไม้ที่ลงมาทำเท่านั้น ส่วนตัวการใหญ่คาดว่าจะเป็นเจ้าของเว็บพนันนั้นเอง และคาดว่ามีผลประโยชน์ร่วมกัน ไม่เช่นนั้นคงไม่ทำแบบนี้

ตนยืนยันว่าไม่รู้จัก พ.ต.ต.คมเป็นการส่วนตัวแต่อย่างใด และทราบว่าก่อนหน้านี้ พ.ต.ต.คมก็มีประวัติข่มขู่วินรถตู้ที่ ย่านบางบัวทอง เมื่อปี 2556 มาแล้ว

ภายหลังจากนี้ผู้เสียหายก็รู้สึกกังวลเรื่องการใช้ชีวิตมาจะดำเนินต่อไปอย่างไร ก็ได้มีการพูดคุยเรื่องให้เจ้าหน้าที่เข้าคุ้มครองเพื่อความปลอดภัย แต่ก็ขึ้นอยู่กับตัวผู้เสียหายด้วยว่าจะไว้ใจเจ้าหน้าที่หรือไม่ ส่วนเงินที่ได้มาจากการเล่นพนันที่เหลืออยู่นั้น ตามขั้นตอนเงินที่ได้มาจากการพนันนั้นเมื่อจ่ายไปแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องคืน และหากดำเนินคดีเรื่องเกี่ยวกับการพนัน ซึ่งทางผู้เสียหายก็ยอมรับว่าเล่นจริง และหากถูกตำรวจแจ้งข้อหาก็พร้อมขึ้นศาลเพื่อรับการไต่สวนเสียค่าปรับเท่านั้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน