ตร.ไซเบอร์ รวบ 2 สาว เครือข่าย Northern Lawyer หลอกระดมทุน ให้ผลตอบแทนร้อยละ 180/ปี ได้เงินหมุนเวียน 1.4 พันล้าน ซื้อทรัพย์สินหรูอื้อ

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 1 ก.ค.65 ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) พล.ต.ต.ชูฉัตร ธารีฉัตร รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ฐิตวัฒน์ สุริยฉาย ผบก.สอท.4 แถลงผลปฎิบัติ “ตำรวจไซเบอร์เปิดยุทธการตัดวงจรความเสียหายขบวนการหลอกระดมทุน นอร์ทเทิร์น ลอว์เยอร์ (Northern Lawyer) โดยการชักชวนให้ผู้เสียหายร่วมลงทุนออนไลน์

พล.ต.ท.กรไชย เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากตำรวจไซเบอร์สืบสวนทราบว่า บริษัท นอร์ทเทิร์น ลอว์เยอร์ จำกัด มีพฤติการณ์การโฆษณาชักชวนให้ประชาชนทั่วไปทางสื่อสังคมออนไลน์ให้มาสมัครไปสมาชิกในลักษณะการระดมทุน ซึ่งอ้างว่าจะนำเงินของสมาชิก ไปลงทุนต่างๆ เช่น ซื้อขายทรัพย์สินดิจิทัล หรือ คริปโตเคอร์เร้นซี่ (Cryptocurrency) , ซื้อขายเงินตราต่างประเทศ หรือ ฟอร์เร็กซ์ (Forex) , ซื้อขายทองคำ , ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ , ซื้อขายรถยนต์มือสอง และค้าอัญมณี โดยจะให้ผลตอบแทนแก่สมาชิกในอัตราสูงสุดถึงร้อยละ 180 ต่อปี พบว่าเปิดดำเนินการมาได้ 11 เดือนแล้ว มีจัดสัมมนาชักชวนหาสมาชิกทุกสัปดาห์

พล.ต.ท.กรไชย เปิดเผยอีกว่า สำหรับการลงทุนจะแบ่งเป็นแพ็กเกจ คือ เริ่มต้นลงทุนที่ 4,000 บาท ครบ 10 เดือน รับผลตอบแทน 6,000 บาท ไล่เรียงไปตามจำนวนเงินลงทุน ไปจนถึงแพ็กเกจสุดท้าย ลงทุนสูงสุดที่ 400,000 บาท ครบ 10 เดือน ได้รับผลตอบแทนถึง 600,000 บาท จึงมีสมาชิกสนใจเข้าร่วมลงทุนในแพ็กเกจต่างๆ กว่า 90,000 คน มีเงินหมุนเวียนกว่า 1,400 ล้านบาท แต่ไม่ได้นำเงินของสมาชิกไปลงทุนหรือทำธุรกิจตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด เป็นการหลอกลวงลงทุนในลักษณะของแชร์ลูกโซ่ ซึ่งเป็นความผิดตามกฏหมาย

จึงรวบรวมพยานหลักฐานจนศาลจังหวัดเชียงใหม่อนุมัติหมายจับ และ ในวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจไซเบอร์เปิดปฏิบัติการเพื่อตัดวงจรความเสียหายของเครือข่ายนี้โดยเข้าตรวจค้นเป้าหมายในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ รวม 5 แห่ง เป็นประกอบด้วย อ.เมืองเชียงใหม่ 2 แห่ง และ อ.สันทราย 3 แห่ง

จับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คน คือ น.ส.ดารารัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี กรรมการผู้จัดการบริษัท และ น.ส.เกวรินทร์ (สงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี ทำหน้าที่เป็นวิทยากรชักชวนสมาชิกมาร่วมลงทุน ทั้งหมดถูกดำเนินคดีข้อหา ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ร่วมกันนำข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ อีกทั้งจะดำเนินการตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน ด้วย

พล.ต.ท.กรไชย เปิดเผยอีกว่า จากการตรวจค้นได้มีการตรวจยึดทรัพย์สินหลายรายการ ประกอบด้วยโฉนดที่ดิน 7 แปลง, รถยนต์หรู 2 คัน , กระเป๋าแบรนด์เนมกว่า 10 ใบ และอายัดเงินในบัญชีของกลุ่มผู้ต้องหาได้กว่า 16 ล้านบาท รวมมูลค่ากว่า 49 ล้านบาท ซึ่งตำรวจไซเบอร์จะขยายผลติดตามจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากยังมีผู้ร่วมก่อเหตุอีก 1 คน คือ นายรอสลี อายุ 48 ปี ยังอยู่ระหว่างหลบหนี พฤติกรรมของเครือข่ายดังกล่าว เข้าข่ายแชร์ลูกโซ่แน่นอน ซึ่งเป็นการหลอกลวงให้ลงทุน แล้วจะได้ค่าตอบแทนจากการฝากเงินถึง 180% ซึ่งเป็นอัตราที่มากเกินจริง เป็นไปไม่ได้ หากมีจริง ธนาคารทั่วโลกคงต้องล่มสลาย เพราะจะไม่มีใครไปฝากเงินกับธนาคาร จึงขอเตือนประชาชนให้ไม่หลงเชื่อ

ทั้งนี้ ขอเตือนกับผู้ที่คิดจะกระทำผิดลักษณะดังกล่าวในทุกแพลตฟอร์มด้วย หากกระทำจะต้องถูกจับกุมแน่นอน ถือเป็นภัยในโลกไซเบอร์ ที่ไปชักชวนคนที่อยู่ในภาวะอยากมีรายได้ อาจจะเป็นเงินก้อนสุดท้ายให้เอามาลงทุน สุดท้ายก็ไม่ได้อะไรกลับคืน

โดยในกรณีนี้ ผู้ที่เข้าร่วมลงทุนส่วนมากก็มีฐานะดี แต่อาจเกิดจากความโลภ โดยมีการเช่าโรงแรมหรูทุกสัปดาห์เพื่อจัดสัมมนา อบรม พรีเซนต์ให้ข้อมูล ยังไม่มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ แต่ตำรวจไซเบอร์ได้ตรวจสอบพบและดำเนินการจับกุมทันที ซึ่งหลังจากนี้ผู้เสียหายสามารถเข้ามาร้องทุกข์ต่อกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีได้ หรือแจ้งผ่านช่องทางสายด่วน 1441

.ต.อ.จิรัฏฐ์ จึงภัทรนิษฐ์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.4 เปิดเผยว่า เส้นทางการเงินของเครือข่ายนี้ว่า จากการตรวจสอบ พบว่า เมื่อสมาชิกหลงเชื่อโอนเงินมาลงทุนผ่านการโอนเข้าบัญชีธนาคาร หลังจากนั้นจะมีการนำเงินดังกล่าวตั้งโปรแกรมโอนอัตโนมัติให้สมาชิกคนเก่าบางส่วน

ส่วนเงินที่เหลือ จะแบ่งไปจัดสัมมนา / จัดอบรม และโอนเข้าบัญชีส่วนตัวของ น.ส.ดารารัตน์ และ น.ส.เกวรินทร์ ซึ่งพบว่านำไปซื้อทรัพย์สิน และอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ ยังมีเงินอีกส่วนที่ถูกโอนเข้าบัญชีของนายรอสลี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาอีก 1 รายที่ร่วมขบวนการนี้ โดยขณะนี้ นายรอสลี ยังคงหลบหนีอยู่

ทั้งนี้ฝากเตือนประชาชนว่าอย่าหลงเชื่อกลุ่มคน หรือบริษัทใดก็ตาม ที่อ้างว่าสามารถนำเงินไปบริหารจัดการลงทุน และให้เงินปันผลตอบแทนที่คุ้มค่า เพราะ ไม่มีธุรกิจใดที่จะทำให้ได้ผลกำไรตอบแทนมาโดยง่าย หากพบกลุ่มบุคคลหรือบริษัทใดที่มีพฤติการณ์ในลักษณะดังกล่าว ให้แจ้งมายังตำรวจไซเบอร์ได้ทันที เพื่อดำเนินการตรวจสอบต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน