สืบ5 รวบหนุ่มแสบ หลอกเป็นลูกจ้างบริษัทใกล้เคียง เจ้านายให้มาชวนทำบุญ ก่อนเชิดเงินหนีเอาเงินไปซื้ออะไหล่แต่งรถเข้าร้าน ก่อเหตุกว่า 50 ครั้ง เน้นบริษัทใหญ่ๆ
เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2565 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ ผบก.น.5 พ.ต.อ.จิรกฤต จารุนภัทร์ ผกก.สส.บก.น.5 พ.ต.ท.พชรชัย ปาณะดิษ พ.ต.ท.ทองเปลว หาญไพบูลย์ พ.ต.ท.ทวีทรัพย์ ภักดีดินแดน รอง ผกก.สส.บก.น.5 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนนครบาล 5
แถลงจับกุมนายธนวิทย์ อายุ 48 ปี ในข้อหา “ฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น“ ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 52/2563 ลงวันที่ 31 ม.ค. 2563 พร้อมด้วยของกลาง รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อHonda รุ่น Forza 350 สีน้ำเงิน จำนวน 1 คัน เสื้อ – กางเกง อุปกรณ์อะไหล่รถยนต์นำเงินที่ได้จากการกระทำความผิดมาซื้อ
พล.ต.ท.สำราญ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.บางโพงพาง รับแจ้งเหตุ คนร้ายหลอกให้ผู้เสียหายผู้เป็นเจ้าของบริษัทขายเครื่องเขียนแห่งหนึ่งย่านพระราม 3 โดยคนร้ายแสดงตัวเป็น เจ้าของบริษัทที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกัน จากนั้นเชิญชวนทำบุญ โดยใช้อุบายว่าจะนำเงินไปสร้างห้องเรียนให้นักเรียนด้อยโอกาสในพื้นที่ต่างจังหวัด เป็นเงินจำนวน 90,000 บาท
หลังทราบว่าตนถูกหลอกจึงได้แจ้งความดังกล่าว ตำรวจชุดสืบสวนบก.น.5 จึงเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุและกล้องวงจรปิดตลอดเส้นทางหนีของคนร้าย ทำให้ทราบตำหนิรูปพรรณคนร้าย ยานพาหนะและเส้นทางหลบหนีจากที่เกิดเหตุ ไปจนถึงที่พักของคนร้ายบริเวณ อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม
“ต่อมาจากการตรวจสอบแผนประทุษกรรมเก่าทราบว่าคนร้ายเคยก่อเหตุในพื้นที่ สน.เทียนทะเล จึงประสานขอข้อมูลจนทราบชื่อสกุลคนร้ายพบมีหมายจับค้างเก่าของสน.บางโพงพาง และมีตำหนิรูปพรรณตรงกับภาพจากกล้องวงจรปิดตามเหตุเมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงไปตรวจสอบที่บริเวณหน้าที่พัก พบยานพาหนะที่คนร้ายใช้ และพบว่าที่พักดังกล่าวเป็นร้านขายอะไหล่รถยนต์ จึงวางกำลังซุ่มดูบริเวณโดยรอบ ก่อนคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้ จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 52/2563 ลงวันที่ 31 ม.ค. 2563” ผบช.น. กล่าว
ด้านพ.ต.อ.จิรกฤต กล่าวว่า จากการสอบสวนคนร้ายให้การว่า หลังจากพ้นโทษ ปลายปี พ.ศ.2563 ได้ก่อเหตุในลักษณะนี้มาประมาณ 50 ครั้ง บริเวณพื้นที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร, สมุทรสาคร, สมุทรปราการ, นครปฐม, ปทุมธานี และ นนทบุรี ซึ่งเป็นแหล่งธุรกิจของบริษัทอุตสาหกรรม เมื่อได้เงินจากการหลอกผู้เสียหายจะนำเงินไปซื้ออุปกรณ์แต่งรถ เพื่อนำมาขายที่ร้าน และนำเงินเล่นการพนันซื้ออยาเสพติดบางส่วน
ส่วนวิธีการอ้างบริษัทที่ขับไปเจอเจอว่าอยู่อีกบริษัทใกล้เคียงให้มาทำบุญ ผู้เสียหายเชื่อว่าเป็นร้านใหญ่ทั้งคู่ จึงหลงเชื่อทำบุญเน้นหลอกคนทำบุญเอาหน้า เบื้องต้นนำส่งพนักงานสอบสวนสน.บางโพงพาง ดำเนินคดีตามกฎหมาย