อ่างทองดุรับปีใหม่ ยกพวกยิงกันสนั่นกลางถนน ดับ 1 ราย อีกเจ็บ 3 ราย ตำรวจรวบทันควันมือยิง เผยปมเดือดหลานจะโดนตบ ก่อนวิวาทกันกลางถนน
เมื่อเวลา 00.40 น. วันที่ 1 ม.ค. 2566 ร.ต.อ.วิทยา แสนโสดา รองสว.(สอบสวน) สภ.แสวงหา จ.อ่างทอง รับแจ้งเหตุกลุ่มวัยรุ่นก่อนเหตุเทาะวิวาท มีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 4 ราย เหตุเกิดที่บริเวณถนนสายพวงทอง-บ้านเพชร ม.9 ต.แสวงหา อ.แสวงหา จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมตำรวจฝ่ายสืบสวน
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณสี่แยกพบรอยเลือดเป็นทางยาว ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 4 ราย ทางเพื่อนและญาติได้นำส่งรพ.แสวงหา และถูกส่งต่อไปยังรพ.อ่างทอง แล้ว พบรถกระบะ โตโยต้า ไมตี้เอ็กซ์ สีเขียว ทะเบียน บธ5728 อ่างทอง ของผู้เสียหาย มีรูกระสุนปืนไม่ทราบชนิดด้านหลัง 1 รู ด้านข้างคนนั่งอีก 2 รู ส่วนท้ายกระบะมีกองเลือดจำนวนมาก
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บคือนายฏิไวทย์ กลุ่มไหม นายณัฐพงษ์ คำมี นายอนุวัฒน์ แกมนิรัตน์ และ นายอนุรักษ์ พลอยแสง อายุ 18 ปี โดยนายอนุรักษ์ ได้รับบาเจ็บสาหัส ก่อนจะไปเสียชีวิตที่รพ.อ่างทอง ในเวลาต่อมา
จากการสอบสวนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนายทรงวิทย์ เกตุทอง อายุ 40 ปี ตำรวจจึงได้ตามไปจับกุมตัวได้ที่บ้าน โดยนายทรงวิทย์ รับสารภาพจึงนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ตามขั้นตอนของกฏหมาย
นายทรงวิทย์ ให้การว่า กลุ่มอรินั้นจะมาทำร้ายโดยจะตบนายกุลวรี ทองสมบัติ หลานชาย อายุ 18 ปี และเอาขวดขว้างใส่ ตนจึงชักปืนที่พกมายิงใส่ไปหลายนัด ขณะที่นายกุลวรี กล่าวว่า กลุ่มพวกตนขี่รถจยย. มาด้วยกัน 4 คัน เพื่อจะออกไปซื้อประทัดมาจุด เมื่อมาถึงก็มีเรื่องจะทำร้ายร่างกายกันจึงเกิดเหตุดังกล่าว
ด้านพ.ต.อ. ธนัตถ์สันต์ เมืองอินทร์ ผกก.สภ.แสวงหา กล่าวว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนตกอยู่ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บนั้นถูกอาวุธปืนยิง 4 ราย มี 2 รายที่อาการสาหัสก่อนจะเสียชีวิต 1 ราย
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ก่อเหตุอ้างว่าน้องชายถูกคู่อริทำร้าย ก็เลยพาพวกมาดักเอาคืน และต่างฝ่ายก็ต่างตามเพื่อนมาเจอกันระหว่างทางพอดี ผู้ก่อเหตุจึงใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่กลุ่มคู่อริประมาณ 5–6 นัด ถูกกลุ่มคนที่อยู่ในรถกระบะได้รับบาดเจ็บ 4 ราย
เมื่อตำรวจทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนายทรงวิทย์ จึงขออนุมัติศาลออกหมายจับก่อนตามไปควบคุมตัวได้ที่บ้านพักพร้อมอาวุธปืนของกลาง พร้อมแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่น พยายามฆ่าผู้อื่น พกพาอาวุธปืนไปในหมู่บ้าน และหากขยายผลไปยังผู้ใดที่มีส่วนร่วม ก็จะแจ้งขอหาดำเนินคดีร่วมกันฆ่าต่อไป
