จับแล้ว มือตระเวน ลักเครื่องกระตุกหัวใจ ที่แท้หนุ่มกู้ภัยแตกแถว โพสต์ขายในกลุ่มอาสาฯ อ้างต้องการเงิน ผบ.ตร.สั่ง ตั้งศูนย์ปฏิบัติการ ขยายผลติดตามคืนมาให้หมด
เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 26 ม.ค. 2566 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. หน.PCT ชุดที่ 5 พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง ผกก.(สอบสวน) บก.สส.ภ.2 รอง หน. PCT ชุดที่ 5 พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.สส.ภ.จว.ระยอง พ.ต.อ.วิชัย สนสกุล ผกก.1 บก.ปส.1 พ.ต.อ.วราวัชร์ ธรรมสโรช ผกก.สน.ตลิ่งชัน ร.ต.อ.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ รอง สว.กลุ่มงานการข่าวฯ บก.ขส. ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น รอง สว.กก.สส.4 บก.สส.บช.น. ร.ต.อ.พลวัต นาคถมยา รอง สว.กก.สส.1 บก.สส.บช.น.
ร่วมกันกับ เจ้าหน้าที่ ตำรวจ PCT ชุดที่ 5 บก.สส.บช.น. และ ฝ่ายสืบสวน สน.ตลิ่งชัน จับกุมตัว นายรุ่งโรจน์ หรือ เหน่งตาเดียว อายุ 37 ปี ข้อหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน” ที่ บ้านพักไม่มีเลขที่ ภายในบริเวณวัดไก่เตี้ย แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน จ.กรุงเทพมหานคร และนายวีรยุทธ หรือแจ็ค อายุ 32 ปี ข้อหา “รับของโจร” จับกุมตัวได้ที่ริมถนนในซอยจรัญสนิทวงศ์ 28/7 แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย จ.กรุงเทพมหานคร อ่านข่าว : ตร.ล่าโจรฉกเครื่องกระตุกหัวใจ หายไป 27 จุดทั่วกรุง เอาไว้ช่วยคนป่วยฉุกเฉิน
ตร.จับพร้อมของกลาง
เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (Automated External Defibrillator, AED) 5 เครื่อง ตรวจยึดได้ในพื้นที่ สน.บางรัก เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (Automated External Defibrillator, AED) ตรวจยึดได้ในพื้นที่ สน.พลับพลาไชย 2 โดย พ.ต.อ.พนม เชื้อทอง ผกก.สน.พลับพลาไชย 2 เป็นผู้มอบของกลางให้ ศปก. เพื่อขยายผล เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (Automated External Defibrillator, AED) ตรวจยึดได้ในพื้นที่ สน.บางบอน โดย พ.ต.อ.นรินท์โชติ พงศ์พิธานนท์ ผกก.สน.บางบอน เป็นผู้มอบของกลางให้ ศปก. เพื่อขยายผลเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (Automated External Defibrillator, AED) ตรวจยึดได้ในพื้นที่ สน.ตลิ่งชัน โดย พ.ต.อ.วราวัชร์ ธรรมสโรช ผกก.สน.ตลิ่งชัน เป็นผู้มอบของกลางให้ ศปก. เพื่อขยายผล
พล.ต.ต.ธีรเดช เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากมีกลุ่มคนร้ายตระเวนลักเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ ที่ติดไว้อยู่ตามสถานที่สำคัญต่างๆในพื่นที่ กรุงเทพมหานคร ล่าสุดวันที่ 24 ม.ค. 65 เจ้าหน้าที่ที่ดูแลเครื่อง AED ดังกล่าว ได้ตรวจสอบพบว่าได้ถูกขโมยไปหลายเครื่อง เป็นที่เดือดร้อนของประชาชนเป็นอย่างมาก พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. จึงได้สั่งการให้ จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการที่ บก.สส.บช.น. เพื่อให้รวดเร็วในการจับกุมคนร้ายและติดตามเครื่องที่ถูกลักไป
ต่อมาชุดสืบสวนได้สืบทราบว่า นายรุ่งโรจน์ เป็นอดีตเจ้าหน้าที่กู้ภัยย่านบางกอกน้อยได้ โพสต์ข้อความในโลกออนไลน์ ประกาศขายเครื่อง AED ในราคาที่ต่ำผิดปกติ จึงได้สืบสวนจนทราบที่พักอาศัยของ นายรุ่งโรจน์ ซึ่งต่อมาวันที่ 25 ม.ค. กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด PCT5 ชุดสืบสวนนครบาล และฝ่ายสืบสวน สน.ตลิ่งชัน จึงเข้าตรวจสอบบ้านพักภายในซอยวัดไก่เตี้ย แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร พบตัวนายรุ่งโรจน์ จากการสอบสวนยอมรับสารภาพว่าได้ตระเวนลักเครื่อง AED ตามที่ต่างๆใน จ.กรุงเทพมหานคร ไปแล้วกว่า 6 เครื่อง แต่ได้จำหน่ายออกไปจนหมด ขณะนี้อยู่ระหว่างขยายผลไปจับกุมอีกเครือข่ายหนึ่งที่ก่อเหตุ และประสานตำรวจพื้นที่เกิดเหตุในกรุงเทพและปริมณฑลตรวจสอบ
จากการสอบสวนขยายผลจนทราบจุดที่ลักเครื่องทั้ง 6 แห่ง คือ 1.บริเวณป้อมตำรวจแยกวรจักร แขวงวัดเทพศิรินทร์ เขตป้อมปราบ ก่อเหตุเมื่อก่อนประมาณวันที่ 20 ธ.ค. 65 จำนวน 1 ตัว 2.บริเวณป้อมตำรวจซอยเจริญกรุง 43 แขวงสี่พระยา เขตบางรัก ก่อนประมาณวันที่ 26 ธ.ค. 65 จำนวน 1 ตัว 3.บริเวณป้อมตำรวจ แยกเจริญสวัสดิ์ แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน ก่อนประมาณวันที่ 3 ม.ค. 66 จำนวน 1 ตัว
4.บริเวณป้อมตำรวจสี่แยกแม้นศรี แขวงคลองมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เมื่อประมาณต้นเดือน ม.ค. 66 จำนวน 1 ตัว 5.บริเวณป้อมตำรวจ ถ.พระรามที่ 4 แขวงมหาพฤฒาราม เขตบางรัก เมื่อประมาณต้นเดือน ม.ค. 66 จำนวน 1 ตัวและ6.บริเวณป้อมตำรวจ ห้าแยกหมอมี ถ.เจริญกรุง แขวงสัมพันธ์วงศ์ เขตสัมพันธ์วงศ์ เมื่อประมาณกลางเดือน ม.ค. 66 จำนวน 1 ตัว
จากการขยายผลทราบว่าถูกนำไปขายให้กับ นายวีรยุทธ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯเช่นเดียวกัน โดยขายต่อเครื่องละ 12,000 บาท จากการตรวจสอบ นายวีรยุทธ ก็พบว่าเครื่อง AED ทั้งหมดได้ถูกขายต่อไปให้กับเจ้าหน้าที่กู้ภัยพื้นที่อื่นๆ กระจายทั่วกรุงเทพและปริมณฑลในราคา 13,000-15,000 บาท ต่อเครื่อง โดยราคาจริงอยู่ในราคา 70,000 บาท ขณะนี้สามารถติดตามกลับมา 5 เครื่อง
สารภาพเอาไปขาย
พล.ต.ต.ธีรเดช เผยต่อว่า จากการสอบสวนนายรุ่งโรจน์ ให้การรับสารภาพว่า ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยอิสระอยู่ละแวกเขตบางกอกน้อย ซึ่งขณะทำงานกู้ภัยได้พบเห็นเครื่อง AED ติดอยู่ทั่วไป โดยเหตุจูงใจแรกเริ่มได้ก่อเหตุเพราะต้องการเงินเพื่อนำไปใช้ซ่อมรถที่จอดเสียอยู่ ซึ่งครั้งแรกได้แอบไปลัก 1 เครื่องย่านวัดเทพศิรินทร์ เมื่อนำไปขายพบว่าราคา 15,000 บาท และเมื่อมีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งต่อๆไป จึงตระเวนลักเรื่อยมาโดยทั้งหมดยอมรับว่าลักมาแล้ว 6 เครื่อง โดยจะให้นายวีรยุทธ เป็นเพื่อนเจ้าหน้าที่กู้ภัยด้วยกันช่วยหาคนซื้อ หากหาได้จะแบ่งให้นายแจ็ค เครื่องละ 3,000 บาท
ส่วนนายวีรยุทธ รับว่ารู้จักกับนายรุ่งโรจน์ มาประมาณ 4 ปี ต่อมาประมาณกลางเดือน ธ.ค.2565 ได้ติดต่อกับนายรุ่งโรจน์ฯทางเฟซบุ๊ก โดยตกลงให้ตนขายเครื่อง AED ให้ ตนก็สอบถามนายรุ่งโรจน์ฯแล้วว่ายืนยันว่าไม่ได้เป็นของที่ขโมยมา แต่ตนก็ยังสงสัยเพราะราคาที่ซื้อขายนั้นต่ำกว่าราคาจริง เมื่อตนขายได้นายรุ่งโรจน์ฯจะแบ่งให้ตนเครื่องละ 3,000 บาท โดยขายเครื่อง AED มาแล้ว 6 เครื่อง โดยเอาไปขายกลุ่มอาสากู้ภัยด้วยกัน มีทั้งโพสต์ขายและบอกปากต่อปาก
เบื้องต้นนำตัว นายรุ่งโรจน์และ นายวีรยุทธ นำส่งพนักงานสอบสวน สน.บางรัก หลังจากนี้จะมีการขยายผลเพื่อติดตามเครื่อง AED และขยายผลหาผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวต่ออีกว่า จากคำให้การผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อว่ามีการขโมยแค่ 6 เครื่อง เนื่องจากยังพบข้อมูลว่ายังมีอีกหลายแห่งในพื้นที่ จ.กรุงเทพ ที่ถูกขโมยไป ซึ่งตอนนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ได้สั่งการให้จัดตั้ง ศปก. เพื่อให้รวดเร็วในการจับกุมคนร้ายและติดตามเครื่องที่ถูกลักไปกลับคืนมา
เนื่องจากอุปกรณ์ AED ดังกล่าวนี้เป็นเครื่องมือสำคัญที่ไว้ใช้ช่วยเหลือชีวิตของประชาชน จะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด ทั้งนี้ ประชาชนดำเนินการแจ้งความได้เนื่องจากเป็นคดีอาญาแผ่นดิน เครื่องมือมีประโยชน์อย่างมาก หากใครพบเห็นขอให้ประสานแจ้งมาสืบสวนนครบาลหรือ เฟซบุ๊ก สืบสวนนครบาล IDMB
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ในเวลาต่อตำรวจมีการคุมตัวนายรุ่งโรจน์ไปสอบสวนเพิ่มเติม โดยระหว่างทางได้ตอบคำถามสื่อที่มีการสอบถามว่าเหตุใดถึงต้องขโมยของส่วนรวม เดือดร้อนแค่ไหน นายรุ่งโรจน์ระบุสั้นๆว่า ไม่ได้เดือดร้อนเท่าไร แต่ก็เห็นใจคนส่วนรวม แต่ทำไปเพราะเงิน และได้เงินไม่เท่าไร และไม่ได้มีส่วนร่วมวางแผนการขโมยแต่อย่างใด ปัดไม่ตอบกรณีที่เพื่อนอีกคนงัดเครื่องออกมาและขายต่อ
