ปวีณา พาพ่อแม่ร้อง ลูกสาว11ปี ถูกหลอกนำรูปโป๊ เผยแพร่ขายตัวในโซเชียล ตะลึงสถิติปี 2565-66 อัตรา การคดีล่วงละเมิดเด็กสูงขึ้น แตะ กว่า 2 ล้านคดี

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 13 ก.พ. 2566 ที่ สมาคมพนักงานสอบสวน สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีฯ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณา เพื่อเด็กและสตรี พาผู้ปกครองของ ด.ญ.เอ เข้าพบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. เพื่อให้ติดตามจับกุมตัวแก็งคนร้ายหลอกลวงเด็กหญิงให้ถ่ายรูปโป๊ เปลือย ส่งไปให้ทางเฟซบุก ก่อนนำไปเผยแพร่ต่อในสื่อโซเชียลไปในกลุ่มเพื่อนๆของเด็ก และประกาศขายบริการทางเพศโดยทั่วไป จนทางครู ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนประสานทางมูลนิธิปวีณาเข้าช่วยเหลือ

นางปวีณา เผยว่าหลังรับเรื่องร้องเรียนได้พาผู้ปกครองของเด็กหญิง ผู้เสียหาย วัย 11 ปี เข้าแจ้งความกับ พ.ต.อ.คงศักดิ์ ปานน้อย ผกก.สน.บางกอกใหญ่ ไว้แล้ว ซึ่งพฤติการณ์ของคนร้ายได้มีการใช้แอพพลิเคชั่นไอจี ติดต่อกับเด็ก เมื่อปี 2562 ที่ขณะนั้นยังมีอายุเพียง 8 ขวบ โดยมาหลอกสอบถามว่าโตขึ้นอยากทำอาชีพอะไร ซึ่งในขณะนั้นผู้เสียหายได้บอกว่าต้องการเป็นแพทย์

ทางคนร้ายหลอกล่อโดยอ้างว่าตนเองเป็นหมอดู ที่สามารถดูดวงชะตาได้ แต่ต้องส่งรูป ภาพโป๊เปลือยของเด็กมาให้ เพื่อใช้ดูสรีระ ว่าสามารถประกอบอาชีพตามที่ต้องการได้หรือไม่ ซึ่งในตอนแรกเยาวชนผู้เสียหายยังไม่หลงเชื่อก่อนจะมีการพูดคุยกัน โดยให้ทางคนร้ายส่งรูปมาก่อน ซึ่งคนร้ายได้ส่งรูปภาพผู้หญิงโป๊เปลือยมาให้ในลักษณะว่าต้องส่งรูปในลักษณะนี้มาให้ จนทำให้ผู้เสียหายที่เป็นเยาวชนรายนี้หลงเชื่อส่งรูปภาพโป๊เปลือยไปให้ พร้อมรูปบัตรประชาชนของตัวเยาวชน ก่อนที่ทางคนร้ายจะตอบกลับเพียงสั้นๆว่า โตขึ้นสามารถประกอบอาชีพเป็นแพทย์ได้และได้หายไป

จนมาเมื่อ วันที่ 3 ก.ย. 2565 คนร้ายใช้เฟซบุ๊ก ติดต่อกลับมายังเยาวชนผู้เสียหายโดยส่งรูปโป๊เปลือยที่เคยส่งให้เมื่อปี 2562 กลับมาให้กับตัวเด็ก พร้อมข่มขู่ให้ส่งภาพโป๊เปลือยไปให้อีก หากไม่ทำตามจะนำภาพโป๊เปลือยที่เคยส่งให้เมื่อปี 2562 ไปเผยแพร่ จนทำให้เด็กหวาดกลัวและตัดสินใจบอกให้กับทางผู้ปกครองทราบ ซึ่งผู้ปกครองได้เดินทางเข้าแจ้งความ ลงบันทึกประจำวันไว้

หลังจากที่มีการลงบันทึกประจำวันคนร้ายติดต่อกลับมาอีกครั้งในช่วงวันที่ 11 ม.ค. 2566 เพื่อทวงถามรูปภาพโป๊เปลือยของเด็กหญิงผู้เสียหาย จึงได้บอกเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้กับพี่ชายให้ทราบ และพี่ชายได้เข้ามาพยามทักแชทไปสอบถามว่ามาติดต่อหลอกนำรูปภาพโป๊เปลือยของน้องสาวตัวเองไปทำอะไร โดยคนร้ายไม่ตอบคำถามใดๆ

แต่กลับมาตอบเพียงว่า ไม่ใช่พี่น้องแท้แท้อย่าเข้ามายุ่ง พ่อขับ 10 ล้อตายหรือยัง ซึ่งเรื่องดังกล่าวคาดว่าคนร้ายจะใช้วิธีการตรวจสอบข้อมูลของทางพี่ชายจากทางสื่อโซเชียลมีเดียที่พี่ชายเคยโพสต์ข้อมูลเอาไว้

ต่อมาในวันที่ 9 ก.พ. 2566 รูปภาพโป๊เปลือยของเยาวชนผู้เสียหายถูกเผยแพร่ ส่งต่อให้เพื่อนๆในเฟซบุ๊กของผู้เสียหาย โดยมีข้อความประกาศว่าหญิงสาวที่อยู่ในรูปมีการขายตัว ทำให้ผู้เสียหายได้รับความอับอาย จึงตัดสินใจเดินทางเข้าร้องขอความช่วยเหลือจากทางมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี








Advertisement

นางปวีณา เผยต่อว่าในขณะนี้กลุ่มมิจฉาชีพ ไดัใช้ช่องว่างจากโซเชียลมีเดีย ในการก่อเหตุกับเด็กสาว มีการใช้วิธีต่างๆในการหว่านล้อม รวมถึงมีวิธีการแฝงตัวเป็นเยาวชนเข้าไปยังกลุ่ม LINEต่างๆ ที่เด็กๆและเยาวชนรวมตัวกัน เพื่อขอให้ส่งภาพโป๊เปลือยลักษณะแบบนี้ ซึ่งในบางรายมีถึงขั้นข่มขู่เรียกเอาเงินหรือให้เติมเงินผ่านระบบ Wallet เพื่อเป็นการปกปิดไม่ให้ส่งต่อรูปที่มีการส่งให้กับกลุ่มคนร้าย

ขณะที่พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า หลังได้รับเรื่อง ตนจะกำชับให้ตำรวจสืบสวนสอบสวน เร่งรัดตรวจสอบให้ดำเนินการตรวจหาตัวผู้ก่อเหตุโดยเร็ว เนื่องจากเป็นภัยสังคม และเป็นอันตรายต่อสวัสดิภาพเด็กและเยาวชน ซึ่งคดีนี้ถือว่าเข้าข่ายการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.เด็ก ซึ่งล่วงละเมิดทางเพศกับเด็ก และความผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ที่มีการนำเข้าหรือส่งต่อเผยแพร่ภาพลามกอนาจาร

ซึ่งจะมีความผิดทั้งผู้ก่อเหตุ,ผู้เผยแพร่ภาพอนาจารเด็ก,ผู้จำหน่ายหรือมีไว้ในครอบครอง มีความผิดทั้งหมด รวมถึงตำรวจจะตรวจสอบว่ามีการทำความผิดกี่กรรม กี่วาระ ซึ่งจะดำเนินการเอาผิดทั้งหมดเพื่อทำให้ศาลเห็นว่าผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมอย่างไร

ซึ่งลักษณะนี้อาจจะ เป็นกลุ่มที่สรรหาสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อการค้า อาจจะมีการก่อเหตุเป็นกลุ่ม มีผู้ร่วมก่อเหตุ ส่วนผู้เสียหายเชื่อว่า น่าจะมีมากกว่านี้ จึงต้องเร่งสืบสวนติดตามจับ เพื่อไม่ให้มีผู้เสียหายเพิ่ม

สำหรับสถานการณ์ของคดีล่วงละเมิดทางเพศ มีอัตราเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างปี 2565-66 อัตรา การคดีล่วงละเมิดเด็กสูงขึ้น แตะ กว่า 2 ล้านคดี

 

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน