สาวตกนรกทั้งเป็น เพื่อนแสบลวงไปขายให้จีนเทา 3 แสน อ้างเป็นล่ามรายได้ดี สุดท้ายถูกรุมโทรมบังคับค้ากาม เซ็นรับหนี้อีก 6 แสน ต้องจำใจยอมทนรับแขกใช้หนี้จนหมด เคราะห์ซ้ำโดนขายต่อไปขายบริการอีกเมือง

วันที่ 27 มี.ค.2567 ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี จ.ปทุมธานี นางปวีณา เปิดเผยความคืบหน้าการช่วยเหลือ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 28 ปี ชาวจ.สกลนคร ถูกหลอกไปประเทศเมียนมาแล้วบังคับให้ค้าประเวณีและได้รับการช่วยเหลือเดินทางกลับประเทศไทยแล้วว่า

ขณะนี้น.ส.เอ อยู่ในความดูแลคุ้มครองของมูลนิธิฯปวีณา ภายหลังหน่วยงานด้านความมั่นคงจ.ตาก สามารถช่วยเหลือออกมาได้ ซึ่งได้พาเข้าแจ้งความและส่งตัวไปตรวจร่างกายที่รพ.ตำรวจ ก่อนเข้าสู่กระบวนการคัดแยกเหยื่อค้ามนุษย์ และติดตามจับกุมขบวนการค้ามนุษย์มาดำเนินคดีต่อไป

ขอเตือนภัยสาวไทยทุกคนอย่าหลงเชื่อ หากได้รับการชักชวนไปทำงานต่างแดนและประเทศเพื่อนบ้านต้องตรวจสอบจากกระทรวงแรงงาน กระทรวงการต่างประเทศ หรือมูลนิธิปวีณาฯให้ดีก่อนตัดสินใจ เพราะงานสบายรายได้ดีไม่มีจริง และอาจจะต้องตกเป็นเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์ต้องทนทุกข์ทรมานตกนรกทั้งเป็น ไม่ได้เงินแล้วยังต้องเป็นหนี้ ถูกบังคับค้าประเวณี ทำงานผิดกฎหมาย และบางคนก็เอาชีวิตไม่รอด ซึ่งเจ้าหน้าที่อาจจะช่วยเหลือไม่ได้ทุกคน

ขณะที่น.ส.เอ เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นว่า ทำงานเป็นล่ามภาษาจีนแต่รายได้ไม่พอรายจ่าย และพี่ชายได้รับอุบัติเหตุต้องใช้เงินรักษาตัวจำนวนมาก ต่อมามีเพื่อนชื่อน.ส.บี (นามสมมุติ) ที่ทำงานอยู่เมืองเล่าก์ก่าย ประเทศเมียนมา ชักชวนให้ไปทำงานเป็นล่ามที่บริษัทแห่งหนึ่งในเมืองเล่าก์ก่ายบอกว่ารายได้ดี ตนก็หวังว่าจะช่วยครอบครัวได้ตัดสินใจเดินทางไปช่วงเดือนต.ค.2565 มีคนมารับที่อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ พาเดินทางต่อไปทางช่องทางธรรมชาติข้ามไปเมียนมา เมื่อไปถึงพบกลุ่มคนจีนจ่ายเงินให้น.ส.บี 3 แสนบาทถึงรู้ว่าถูกหลอกมาขาย ส่วนน.ส.บีก็หนีไป

” จากนั้นหนูถูกกลุ่มคนจีนข่มขืนรุมโทรม ใช้กำลังทำร้ายกักขังบังคับให้ทำงานค้าประเวณีตลอด 24 ชั่วโมง ถ้าไม่ทำก็ถูกทำร้ายทุบตี และยังถูกบังคับให้เซ็นสัญญาเป็นหนี้ 6 แสนบาท เมื่อขัดขืนไม่ยอมเซ็นก็ถูกปืนตบที่ศีรษะและทำร้ายจนเลือดคั่งในสมองต้องนอนรพ. หลังอาการดีขึ้นกลุ่มคนจีนนำตัวกลับมาบังคับให้ค้าประเวณีอีก

ต้องยอมทำตามหวังว่าใช้หนี้หมดจะได้กลับบ้าน แต่เมื่อใช้หนี้หมดสุดท้ายก็ถูกจับถูกบังคับให้ค้าประเวณีอีก ช่วงนั้นที่เมืองเล่าก์ก่ายมีสงครามรบกัน โดนตัดน้ำ ตัดไฟ ตัดสัญญาณโทรศัพท์ทั้งหมด ทำให้ไม่สามารถติดต่อใครได้เลย ”

น.ส.เอ เล่าต่อว่า ต่อมาช่วงเดือน ก.พ.67 ถูกกลุ่มคนจีนเตรียมขายต่อให้กับคนจีนอีกกลุ่มที่บังคับให้ทำงานคอลเซ็นเตอร์ในราคา 1.5 ล้านบาท แต่ช่วงนั้นรัฐบาลจีนกวาดล้างขบวนการคอลเซ็นเตอร์ที่เล่าก์ก่ายจึงยังไม่มีใครซื้อ กลุ่มคนจีนเลยขายหนูต่อไปที่เมืองเมียวดีในราคา 3 แสนบาทถูกบังคับให้ค้าประเวณีอีก

ต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมากยิ่งกว่าตกนรกทั้งเป็น ถูกขายไปอยู่ที่เมืองเมียวดีไม่นานก็ได้ข่าวว่า มูลนิธิปวีณาฯช่วยเหลือสาวไทย 2 ราย ที่ถูกหลอกมาค้าประเวณีจนได้กลับไทย จึงได้ร้องทุกข์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก มูลนิธิปวีณาฯ จนกระทั่งได้รับการช่วยเหลือจนได้กลับไทย เหมือนตายแล้วเกิดใหม่อีกครั้งหลังตกนรกทั้งเป็นอยู่ 15 เดือน

 

 

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน