นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ครึ่งปีหลังเริ่มมีแนวโน้มดีขึ้นหลังจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เริ่มผ่อนคลายเกณฑ์การให้สินเชื่อที่อยู่อาศัย (แอลทีวี) โดยกรณีผู้กู้ร่วม ไม่มีชื่อเป็นกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัย จะผ่อนปรนให้ผู้กู้ร่วมรายนั้นเป็นสัญญาแรก เมื่อต้องการกู้ซื้อบ้านของตัวเอง ซึ่งช่วยให้สถานการณ์ตลาดดีขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาฐานลูกค้าของลลิลฯ ประมาณ 25% เป็นผู้กู้ร่วม

ขณะที่นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บมจ. ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจครึ่งปีหลังน่าจะดีขึ้นจากปัจจัยบวกทั้งอัตราดอกเบี้ยที่แม้ลดลงเพียง 0.25% แต่ก็ถือว่าเป็นผลดีต่อตลาด และเศรษฐกิจน่าจะดีขึ้น หลังจากช่วง ไตรมาสแรกผู้บริโภคเร่งโอนบ้าน เพื่อหนีมาตรการแอลทีวี ส่งผลให้ไตรมาส 2 ตลาดการซื้อขายที่อยู่อาศัยซึมลง และไตรมาส 3 เริ่มกลับสู่ภาวะปกติ ทำให้ปีนี้บริษัทยังคงเป้าหมายยอดขายปีนี้ที่ 5,300 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกมียอดขายแล้ว 3,100 ล้านบาท จากการเปิดโครงการใหม่ไปแล้ว 4 โครงการ รวมมูลค่า 2,500 ล้านบาท ขณะที่ในช่วง 1 เดือนครึ่งของไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ได้เปิด 4 โครงการใหม่ได้ตามแผนที่วางไว้ และยังสามารถปิดการขายในส่วนของเฟสแรกได้ทั้งหมดแล้ว ทำให้ได้ยอดขายมาประมาณ 400 ล้านบาท ประกอบด้วยโครงการลลิล ทาวน์ อ่อนนุช-สุวรรณภูมิ, ลลิล ทาวน์ รังสิต-คลอง 2 โครงการไลโอ บลิส รังสิต-คลอง 4 และ ไลโอ บลิส เพชรเกษม 81/2 และในเร็วๆ นี้จะเปิดขายอีก 1 โครงการ ภายใต้ ไลโอ บลิส ปลวกแดง-มาบยางพร จ.ระยอง

“กลยุทธ์ของบริษัทมุ่งเน้นฐานลูกค้าเรียลดีมานด์ พร้อมทำตลาดเชิงรุก และหาความต้องการของลูกค้าเชิงลึก เพื่อมาพัฒนาและออกแบบบ้านให้ตรงใจลูกค้ามากที่สุด ส่วนแนวทางการทำการตลาดให้ความสำคัญด้านออนไลน์มากขึ้น แต่สื่อออฟไลน์ก็ยังจำเป็นเพื่อสร้างแบรนด์ ตลอดจนการจัดกิจกรรมเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าอย่างต่อเนื่องโดยร่วมกับพันธมิตร 5-6 แบรนด์เพื่อมอบสิทธิประโยชน์พิเศษแก่ลูกบ้านของลลิล รวมถึงยังคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมโดยนำการออกแบบ แบบ Eco Living มาประยุกต์ใช้ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของลูกบ้าน” นายชูรัชฏ์ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน