น.ส.มณีกานต์ อิสรีย์โกศล ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การตลาด และสื่อสารภาพลักษณ์องค์กร ประจำภูมิภาคไทย บริษัท ริสแลนด์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ริสแลนด์ เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่สัญชาติฮ่องกง มีการลงทุนใน 7 ประเทศทั่วโลก แม้ในช่วงครึ่งปีแรกปี 2563 ต้องยอมรับว่าภาพรวมธุรกิจของบริษัทจะได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์โควิด-19 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ล่าสุดบริษัทปรับกลยุทธ์และแผนการทำตลาดให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในแต่ละประเทศ ด้วยการเพิ่มช่องทางขายผ่านออนไลน์ ทั้งยังมองหาที่ดินแปลงใหม่ๆ ที่มีศักยภาพเพื่อวางแผนที่จะเปิดตัวโครงการใหม่เมื่อสถานการณ์ต่างๆ เริ่มคลี่คลาย
ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างการเปิดขายคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ เดอะ ลิฟวิ่น รามคำแหง สูง 42 ชั้น บนเนื้อที่กว่า 8 ไร่ บริเวณแยกลำสาลี มูลค่า 4,900 ล้านบาท ประกอบด้วยห้องชุดรวม 1,938 ยูนิต มีตั้งแต่สตูดิโอ 22 ตร.ม., 1 ห้องนอน 27 ตร.ม., 1 ห้องนอนพลัส 32 ตร.ม., 2 ห้องนอน 38-55 ตร.ม. พร้อมร้านสะดวกซื้อ แฟมิลี่มาร์ท และร้านซักรีด อ๊อตเทริ โดยบริษัทเปิดขายได้ 1 เดือน ส่วนราคาขายเริ่มต้นที่ 1.6 ล้านบาท หรือราคาต่อตร.ม. 70,000 บาท และปัจจุบันมียอดขายแล้วกว่า 400 ยูนิต โดยแบ่งเป็นคนไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะจีนและฮ่องกงในสัดส่วน 50/50 ซึ่งจากจุดเด่นของโครงการที่อยู่ ใกล้รถไฟฟ้า MRT สถานีอินเตอร์เชนจ์ ลำสาลี 100 เมตร สามารถเชื่อมต่อรถไฟฟ้า MRT 3 สาย ทั้งสายสีส้ม, สายสีเหลือง และสกายวอล์ก สายสีน้ำตาล ได้ในอนาคต ประกอบกับล่าสุดโครงการได้รับอนุมัติ การวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมแล้ว หรือ “ผ่าน EIA” คาดว่าจะสร้างแล้วเสร็จในปี 2567
ทั้งนี้ จากการสำรวจตลาดคอนโดมิเนียมให้เช่าในย่านนี้พบว่าผลตอบแทนการเช่าประมาณ 6% อีกทั้งเมื่อเทียบราคาขายคอนโดมิเนียมบนถนนรามคำแหงซึ่งปัจจุบันก่อสร้างแล้วเสร็จรวม 14,000 ยูนิต และมียอดขายแล้วกว่า 14,000 ยูนิต เฉลี่ยราคาขายที่ 90,0000-100,0000 บาท/ตร.ม. และหลังจากนี้มีโครงการใหม่ๆ อีกไม่น้อยกว่า 6,000 ยูนิต ที่เตรียมจะทยอยเปิดการขายต่อเนื่องจากนี้ไปด้วย ในขณะที่บริษัทตั้งเป้ายอดขายโครงการดังกล่าวภายในสิ้นปีนี้ที่ 50%
สำหรับ ริสแลนด์ ได้เริ่มเข้ามาลงทุนในประเทศไทย เมื่อปี 2560 ปัจจุบันเปิดขายโครงการที่อยู่อาศัยไปแล้ว 7 โครงการ ประกอบด้วยบ้านเดี่ยว 1 โครงการ คอนโดมิเนียม 4 โครงการ และโครงการมิกซ์ยูส 2 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 44,000 ล้านบาท ทำให้ขึ้นเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่างชาติอันดับ 1 ที่มีมูลค่าการลงทุนในประเทศไทยสูงที่สุดในขณะนี้
ส่วนการดำเนินงานในปี 2563 ได้เปิดตัว 3 โครงการใหม่มูลค่ารวม 23,500 ล้านบาท ซึ่ง 2 โครงการแรกเปิดตัวไปแล้วก่อนหน้านี้ คือ คลาวด์ เรสซิเด้นท์ สุขุมวิท 23 มูลค่า 3,600 ล้านบาท และ สกายไรส์ อเวนิว สุขุมวิท 64 มูลค่ากว่า 15,000 ล้านบาท ผลตอบรับดีทั้ง 2 โครงการ เนื่องจากอยู่ในทำเลสุขุมวิท ใกล้รถไฟฟ้า ราคาเฉลี่ยที่สามารถจับต้องได้
ขณะที่ได้ชะลอเปิดตัวโครงการใหม่ที่ จ.ภูเก็ต บริเวณใกล้แหลมพันวา โดยเฟสแรกมูลค่า 5,800 ล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่กระทบตลาดท่องเที่ยวซึ่งเป็นรายได้หลักของไทย ประกอบกับนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาได้ แต่อย่างไรก็ดี บริษัทยังคงเชื่อมั่นต่อตลาดเพราะในช่วงที่ผ่านมา ยังคงมีกลุ่มที่มีกำลังซื้อบางส่วนอาศัยช่วงเวลาที่ผ่านมา ในการซื้อบ้านและคอนโดฯ เพราะได้ราคาและโปรโมชั่นที่ดีที่สุด
