นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายที่อยู่อาศัยแห่งชาติ มีมติเมื่อวันที่ 21 มี.ค. 2561 เห็นชอบให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยการเคหะแห่งชาติเป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบในการรวบรวมและจัดหาข้อมูลเพื่อจัดตั้งศูนย์ข้อมูลที่อยู่อาศัยแห่งชาติ โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สำนักงานสถิติแห่งชาติ และกระทรวงการคลัง เพื่อรวบรวมข้อมูลอุปสงค์-อุปทานข้อมูลการพัฒนาที่อยู่อาศัยรวมถึงพัฒนาระบบข้อมูลที่อยู่อาศัยในภาพรวมของประเทศ และเชื่อมโยงโครงข่ายข้อมูลสารสนเทศในหน่วยงานภาครัฐภาคเอกชนในระดับท้องถิ่นและในระดับประเทศ ตลอดจนวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์ที่อยู่อาศัยเพื่อสนับสนุนการจัดทำนโยบายที่อยู่อาศัยของประเทศ

ทั้งนี้ การดำเนินงานจัดตั้งศูนย์ข้อมูลที่อยู่อาศัยแห่งชาติ แบ่งออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 บูรณาการข้อมูลและเชื่อมโยงระบบ คือ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์โดยศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเป็นศูนย์กลางในการวางระบบและนำข้อมูลด้านที่อยู่อาศัยเผยแพร่ และการเคหะแห่งชาติเป็นผู้รวบรวมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้จัดตั้งศูนย์ข้อมูลที่อยู่อาศัยเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 2561 รวมทั้งมีการพัฒนาเว็บไซต์ http //www.nhicm Society.go.th เพื่อเป็นแหล่งสืบค้นข้อมูลเบื้องต้น โดยปัจจุบัน อยู่ระหว่างดำเนินการเป้าหมายระยะแรก และคาดว่าจะนำเข้าข้อมูลที่เกี่ยวข้องด้านที่อยู่อาศัย ที่รวบรวมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดและนำเข้าข้อมูลในส่วนของการเคหะฯ ทั้งหมด 11 หมวดเข้าสู่ระบบศูนย์ข้อมูลที่อยู่อาศัยแห่งชาติ แล้วเสร็จภายในปี 2564

สำหรับระยะที่ 2 พัฒนาระบบและขยายโครงข่าย และระยะที่ 3 พัฒนาเต็มรูปแบบเพื่อให้หน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบสามารถวิเคราะห์และเก็บข้อมูลในรูปแบบ Big Data ได้ และจากการดำเนินงานที่ผ่านๆ มา การเคหะฯ ได้รวบรวมข้อมูลจัดหมวดหมู่เชื่อมโยง (Link) ข้อมูลกับหน่วยงานต่างๆ และนำเข้าข้อมูลในส่วนของการเคหะฯ การพัฒนาเว็บไซต์ศูนย์ข้อมูลที่อยู่อาศัยแห่งชาติโดยบูรณาการข้อมูลภาพรวมจากภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วนสมบูรณ์และครอบคลุมทุกมิติ ภายในปี 2565

“ปัญหาในการจัดเก็บข้อมูลและนำเข้าข้อมูลสู่ระบบ คือการไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลของบางหน่วยงาน แต่อย่างไรก็ตาม คาดว่าการดำเนินการทั้งหมดในขั้นตอนนำเข้าข้อมูลในระบบจะสมมารถแล้วเสร็จได้ในปี 2564 ซึ่งขั้นตอนต่อไปสถาบันส่งเสริมการวิเคราะห์และบริหารข้อมูลขนาดใหญ่ภาครัฐ (GBDI) จะเข้ามาทำกน้าที่ในการวิเคราะห์ข้อมูล และคาดว่าในปี 2565 จะเปิดให้บริการข้อมูลแก่สาธารณะชนได้ทั้งหมด” นายทวีพงษ์ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน