น.ส.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แผนการลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบในปี 2563 บริษัทมีนโยบายการขยายตลาดให้ครอบคลุมทุกตลาดมากขึ้น โดยพัฒนา 4 แบรนด์ใหม่ ได้แก่ บ้านเดี่ยว แบรนด์ เสนา วิลเลจ, บ้านแฝดสไตล์ บ้านเดี่ยว เสนา วิลล์, ทาวน์เฮาส์สไตล์บ้านแฝด เสนา เวล่า และทาวน์เฮาส์ เสนา วีว่า ซึ่งเน้นทำเลย่านชานเมือง เพื่อตอบรับความต้องการของลูกค้าที่ต้องการซื้ออยู่อาศัยใกล้แหล่งงานเพิ่มมากขึ้น จากการขยายตัวของโครงการระบบขนส่งมวลชนรอบทิศทาง ทั้งการขยายเส้นทางถนนและโครงการรถไฟฟ้าที่ทำให้การเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองได้ง่ายขึ้น อีกทั้งการขยายตัวของสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ
“จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้ประกอบการเร่งหันมาพัฒนาโครงการบ้านมากขึ้น ส่งผลให้ขณะนี้มีสินค้าในตลาดออกมาจำนวนมาก โดยเฉพาะทาวน์เฮาส์ที่มีโครงการใหม่เปิดเพิ่มขึ้นถึง 30% จากปีก่อน แต่บริษัทมองเห็นว่ามีตลาดและมีช่องว่างจึงได้กลับมาเปิดโครงการทาวน์เฮาส์อีกครั้งในรอบ 10 ปี โดยเลือกในตลาดและทำเลที่ยังไม่มีใครทำ พร้อมสร้างความแตกต่าง จากการพัฒนาโครงการ ผ่านแนวคิดถ้าผู้หญิงอยู่สบาย ผู้ชายก็แฮปปี้ ถูกถ่ายทอดและต่อยอดมาสู่ Made From Her ในปี 2563 ถ้าคิดละเอียดกว่า ก็อยู่สบายกว่า เพื่อพัฒนาโครงการแนวราบใหม่ๆ”
บริษัทได้การออกแบบฟังก์ชั่นการใช้งานภายในที่อยู่อาศัย และการบริการต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ประกอบด้วย 3 จุดเด่น 1. SENA 360 แอพพลิเคชั่น การบริการพิเศษผ่านแอพพลิเคชั่นที่ช่วยลูกบ้านจัดการทุกเรื่องของการอยู่อาศัยได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น 2. SENA Solar ทุกโครงการของเสนามีการติดตั้งแผงโซลาร์ให้กับบ้านทุกหลัง และ 3. การออกแบบพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านที่คิดละเอียดและใส่ใจครอบคลุมทุกตารางนิ้ว เพื่อตอบโจทย์การใช้งานได้มากขึ้น
อย่างไรก็ดี ได้เตรียมเปิดโครงการทาวน์เฮาส์ เสนา วีว่า ทำเลพุทธมณฑล-สาย 7 ในราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการ 420 ล้านบาท เป็น 2 ชั้นหน้ากว้าง 4 เมตร และ 5.7 เมตร ที่ดินเริ่ม 16 ตร.ว.ขึ้นไป จำนวน 210 ยูนิต โดยจะพรีเซลในวันที่ 14-15 พ.ย.นี้ ราคาพิเศษ 1.99 ล้านบาท จำนวนบ้านที่สร้างเสร็จ 20 ยูนิต และคาดว่าจะขายหมดด้วยมูลค่าขายรวมประมาณ 100 ล้านบาท โดยในเดือนพ.ย.นี้ บริษัทมีแผนจะเปิด 3 โครงการใหม่ ทำให้ทั้งปีนี้เปิดรวม 7 โครงการ ลดลงจากเดิมวางไว้เปิด 10 โครงการใหมาในปีนี้ ส่งผลให้ยอดขายในปีนี้จะลดลงจากเป้าหมายประมาณ 20% ในขณะที่ยอดโอนไม่ได้มากกว่าปีที่แล้ว แต่กำไรสะสมน่าจะดีกว่าปีที่แล้ว
