นายประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลุมพีนี วิสดอม แอนด์ โซลูชั่น จำกัด ผู้วิจัยและที่ปรึกษาด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการสำรวจภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล เปิดตัวใหม่ในปี 2563 คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 65,000-75,000 ยูนิต คิดเป็นมูลค่าประมาณ 315,000-330,000 ล้านบาท ลดลง 25-30% เมื่อเทียบกับปี 2562
ขณะที่ 9 เดือนแรกพบว่ามีประมาณ 50,435 ยูนิต มูลค่า 205,453 ล้านบาท ลดลง 34% และ 33% ตามลำดับ เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่อัตราการขายเฉลี่ยโครงการเปิดใหม่ที่ 18% ลดลงจาก 32% ในปีก่อนหน้า
อย่างไรก็ดี หากพิจารณารายทำเล พบว่ากำลังซื้อที่อยู่อาศัยในโซนกรุงเทพฯ ตอนเหนือ บริเวณทำเลแจ้งวัฒนะ เป็นทำเลที่มีกำลังซื้อสูง โดยมีอัตราการขายอยู่ที่ 13 ยูนิตต่อเดือน ระดับราคาที่อยู่อาศัยที่ได้รับความนิยมไม่เกิน 2 ล้านบาท จากการสำรวจพบว่า ณ สิ้นเดือนก.ย. ที่ผ่านมา พบว่ามีห้องชุดในคอนโดมิเนียมเหลือขาย 2,273 ยูนิต คาดว่าจะใช้เวลาขาย 11 เดือน
ทั้งนี้ ด้วยศักยภาพของถนนแจ้งวัฒนะ เป็นที่ตั้งของศูนย์ราชการ อีกทั้งยังมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย-มีนบุรี ทำให้เป็นทำเลที่มีการเดินทางสะดวก ส่งผลให้มีความต้องการที่อยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก ขณะที่ระดับราคาที่ดินมีการปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง จากราคาประเมินของกรมธนารักษ์ ล่าสุดเฉลี่ยอยู่ที่ 130,000-140,000 บาท/ตร.ว. และมีแนวโน้มปรับขึ้นไม่น้อยกว่า 10% ในปี 2564 ผลจากการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่คาดว่าจะเปิดใช้งานในปี 2565-2566 ทำให้มีความต้องการที่ดินในการพัฒนาที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น
ส่วนภาพรวมโซนตะวันตกของกรุงเทพฯ โดยเฉพาะทำเลจรัญสนิทวงศ์ บริเวณสถานีไฟฉาย-ท่าพระ ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ โดยตั้งแต่ปี 2559-2563 มีคอนโดมิเนียมเปิดตัวสะสม 5,199 ยูนิต มียอดขายเฉลี่ย 18 ยูนิตต่อเดือน ณ สิ้นเดือนก.ย. มียอดเหลือขาย 1,999 ยูนิต ซึ่งจะใช้เวลาในการขายเฉลี่ย 10 เดือน ส่วนราคาที่อยู่อาศัยที่ได้รับความสนใจไม่เกิน 2 ล้านบาท
ทั้งนี้ จรัญสนิทวงศ์ เป็นย่านที่อยู่อาศัยและมีชุมชนดั้งเดิมและจากการที่ปัจจุบันมีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายบางซื่อ-ท่าพระ และเส้นหัวลำโพง-บางแค ได้เปิดให้บริการแล้ว ทำให้การเดินทางสะดวกมากขึ้นจากฝั่งธนบุรี ไปเขตพระนคร ส่งผลให้ราคาที่ดินในย่านนี้ปรับตัวสูงขึ้นเฉลี่ย 8% ต่อปี จากราคาประเมินที่ดิน กรมธนารักษ์รอบล่าสุด ราคาขายเฉลี่ยที่ 150,000-200,000 บาทต่อตร.ว. และมีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้นในปีหน้าได้อีก 8-10%
ขณะที่ทำเลกรุงเทพฯ ตอนใต้ บริเวณ ถนนเอกชัย-สิรินธร ถือเป็นโอกาสของตลาดลงทุน เนื่องจากเป็นย่านชุมชนการค้าเก่าแก่ เป็นแหล่งการจ้างงาน ที่เชื่อมต่อกับ จ.สมุทรสาคร และการเดินทางสะดวกผ่านถนนสายหลัก 3 สาย เพชรเกษม พระราม 2 และสิรินธร ทำให้มีความต้องการที่อยู่อาศัยจำนวนมากโดยเฉพาะราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท และจากการสำรวจพบว่ามีคอนโดมิเนียมเปิดตัวสะสมตั้งแต่ปี 2557-2563 รวม 12,919 ยูนิต อัตราการขายเฉลี่ย 15-20 ยูนิต/เดือนในปี 2562 ณ สิ้นเดือนก.ย. 2563 มีคอนโดมิเนียมเหลือขายรวม 9,559 ยูนิต ขณะที่มีอัตราผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าเฉลี่ยอยู่ที่ 5% ต่อปี ส่วนราคาที่ดินในย่านนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 37,000-90,000 บาท/ตร.ว. มีการปรับราคาเฉลี่ย 5-8% ต่อปี
