นางศุภลักษณ์ จันทร์พิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริทาเนีย จำกัด ผู้พัฒนาธุรกิจบ้านจัดสรรในเครือ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2564 มีแนวโน้มที่ออริจิ้น ซึ่งเป็นบริษัทแม่จะปรับพอร์ตการลงทุนมาสู่โครงการที่อยู่อาศัยแนวราบ ตั้งแต่หาที่ดิน หาสินเชื่อพัฒนาโครงการ ในช่วงที่คอนโดมิเนียมชะลอตัว ทำให้ในปีหน้าบริษัทมีแผนเปิดตัวที่อยู่อาศัยแนวราบรวม 10-12 โครงการ และสามารถบรรลุเป้าหมายในการเปิดตัวโครงการใหม่รวมกว่า 10,000 ล้านบาท เร็วขึ้นจากเดิมที่วางไว้ภายในปี 2565 ซึ่งส่วนหนึ่งมาจาก 4 โครงการที่เลื่อนเปิดการขายในปีนี้

ขณะที่กลยุทธ์ในการทำตลาดจะใช้ แบรนด์ไบรตัน ซึ่งเป็นโครงการบ้านแฝดและทาวน์โฮม ราคา 2-5 ล้านบาท ทำเลเป้าหมายบริเวณตะเข็บเมืองของกรุงเทพฯ และแบรนด์บริทาเนีย บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ราคา 3-7 ล้านบาท เป็นตัวบุกตลาด ส่วนทำเลการเปิดตัวโครงการส่วนใหญ่จะยังเป็นทิศตะวันออกของกรุงเทพฯ เป็นตัวนำ ขณะเดียวกันก็สนใจทำเลกรุงเทพฯ ตะวันตก ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างหาที่ดิน รวมถึง บริเวณพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ด้วย

“ปีหน้าโครงการบ้านแนวราบยังเป็นเรือธง เพราะต่างชาติยังเข้ามาประเทศไทยได้ไม่มาก ทำให้ตลาดคอนโดมิเนียมโดยภาพรวมยังชะลอตัว แต่อย่างไรก็ดี คอนโดฯ ก็คงขึ้นอยู่กับทำเลด้วย และในส่วนของผู้ประกอบการทุกรายก็มองในทิศทางเดียวกันและหันมาทำบ้านแนวราบด้วยเช่นกัน”

นางศุภลักษณ์ กล่าวว่า ในช่วง 3 ปีที่บริษัทรุกสู่ตลาดบ้านแนวราบ และประสบความสำเร็จ โดยสามารถเติบโตและขยายตลาดได้อย่างรวดเร็ว ล่าสุดได้ยกระดับบริทาเนียขึ้นมาสู่การเปิดตัวแบรนด์เบลกราเวีย บ้านเดี่ยวลักชัวรี่ ที่มีการพัฒนาฟังก์ชันและดีไซน์ให้มีเอกลักษณ์และสอดคล้องความต้องการของลูกค้าระดับบน ประเดิมโครงการแรกด้วย โครงการ เบลกราเวีย เอ็กซ์คลูซีฟ พูลวิลล่า บางนา-พระราม 9 บนเนื้อที่เกือบ 24ไร่ เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น พร้อมสระว่ายน้ำทุกหลัง รวม 65 ยูนิต ราคาขายเริ่มต้น 25-40 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการกว่า 1,800 ล้านบาท บนถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก

โดยรูปแบบบ้านสไตล์สโมเดิร์นบริติช การออกแบบฟังก์ชั่นใช้สอยภายในบ้านสามารถใช้ทุกพื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า บนขนาดแปลงที่ดินตั้งแต่ 70-90 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 360-500 ตร.ม. ภายในโครงการยังนำระบบไฟฟ้าทั้งหมดลงใต้ดินเพื่อทัศนียภาพที่สวยงามตลอดการอยู่อาศัย เบื้องต้นได้เปิดให้ลูกค้านัดเข้าชมโครงการไปแล้ว 21 ครอบครัว เบื้องต้นคาดว่าจะปิดการขายได้ 3 ยูนิต

สำหรับภาพรวมการดำเนินงานของบริษัทล่าสุดมียอดขายได้ตามเป้าหมายแล้ว 4,000 ล้านบาท โดยมียอดโอนไปแล้วกว่า 50% ทำให้คาดว่าปีนี้ทั้งปีจะมียอดขายเกือบ 5,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่มียอดขาย 3,000 ล้านบาท และมียอดรับรู้รายได้กว่า 1,000 ล้านบาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน