นายบดินทร์ธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มในปี 2564 จากการวิจัยตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยศึกษาถึงข้อมูลและพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้า พบว่า มีความต้องการอสังหาฯ ที่มีความคุ้มค่าในราคาที่จับต้องได้ ดังนั้นทำเลและสินค้าของโครงการที่จะเปิดใหม่ในปีนี้ จะเน้นฐานลูกค้าที่มีความต้องการจริงเป็นหลัก โดยมีแผนพัฒนา 4 โครงการใหม่ในปีนี้ มูลค่ารวม 4,660 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการแนวราบ จำนวน 3 โครงการ มูลค่ารวม 2,510 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 1 โครงการ มูลค่า 2,150 ล้านบาท
สำหรับโครงการแนวราบ จะเป็นทาวน์โฮม แบรนด์ สตอรี่ส์ ทำเลรังสิต-วงแหวน, สตอรี่ส์ วิรัณยา บางนา-สุวรรณภูมิ 187 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 3 ล้านบาท และบ้านเดี่ยว วิรัณยา บางนา-วงแหวน จำนวน 207 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 7 ล้านบาท ส่วนคอนโดมิเนียม จำนวน 1 โครงการ ได้แก่ โครงการ เดอะ สเตจ มายด์สเคป รัชดา-ห้วยขวาง จำนวน 477 ยูนิต ราคาเริ่มต้นกว่า 2 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่ซื้อมาจาก บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ภายใต้แบรนด์ เมกะ สเปซ 1&2 เป็นคอนโดสูง จำนวน 2 อาคาร รวม 2,329 ยูนิต มูลค่าโครงการ 4,300 ล้านบาท
“การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปี 2563 ทำให้การเปิดตัวโครงการใหม่ลดลงเหลือ 333 โครงการทั้งตลาดเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2562 มีการเปิดโครงการใหม่ 480 โครงการ ซึ่งผู้ประกอบการมีการปรับแผนและเลื่อนการเปิดตัวโครงการใหม่ออกไป โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียม ส่งผลให้สต๊อกคงค้างในภาคธุรกิจอสังหาฯ ลดลงในระดับหนึ่งตั้งแต่ไตรมาส 2 ปีที่แล้ว ส่งผลให้ตลาดอสังหาฯ ไม่เติบโต ผลกระทบดังกล่าวยังคงต่อเนื่องมาถึงต้นปีนี้ และคาดว่าครึ่งปีแรกของปีนี้ผู้ประกอบการจะเน้นการระบายสต็อกสินค้าเดิมที่มี และรอดูสถานการณ์โดยรวมของตลาด”
อย่างไรก็ดี บริษัทพิจารณาถึงความรอบคอบในการดำเนินงาน เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทบทวนแผนงานรายเดือนและรักษากระแสเงินสดสร้างความมั่นคงของการดำเนินธุรกิจ คาดว่า ในปี 2564 จะสามารถสร้างยอดขายจำนวน 2,350 ล้านบาท เติบโตขึ้น 15% จากปีก่อนที่มียอดขาย 2,050 ล้านบาท พร้อมกันนี้ตั้งเป้าว่าในปี 2567 จะสามารถสร้างรายได้แตะ 4,000 ล้านบาท และมียอดรอโอนกรรมสิทธิ์ (backlog) ทั้งหมด 5,660 ล้านบาท ระหว่างปี 2564-2567 ซึ่งบริษัทมองการเข้าซื้อกิจการ หรือโครงการ เป็นแนวทางสำคัญจะสามารถทำให้บริษัทโตได้อย่างก้าวกระโดดด้วย โดยที่ผ่านมาบริษัทพัฒนาโครงการมาแล้วทั้งสิ้นจำนวน 21 โครงการ มูลค่ารวม 30,500 ล้านบาท โดยมีโครงการที่อยู่ระหว่างการขายและจะเปิดขายในปีนี้รวมจำนวน 12 โครงการ มูลค่ารวม 8,000 ล้านบาท
