นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร เปิดเผยว่า ล่าสุดบริษัทจัดตั้งบริษัท บริหารสินทรัพย์ พรอมิเนนท์ จำกัด เพื่อเตรียมขยายสู่ธุรกิจบริหารหนี้เสียประเภทที่อยู่อาศัย โดยปัจจุบันได้ยื่นขอใบอนุญาตกับ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และคาดว่าจะได้ใบอนุญาตภายในไตรมาส 3 ปีนี้ พร้อมจะเริ่มเข้าประมูลหนี้ที่มีปัญหา หรือเอ็นพีแอล จากธนาคารเพื่อนำมาบริหารได้ โดยเตรียมวงเงินซื้อหนี้ไว้ 400-500 ล้านบาท ซึ่งข้อดีของการเข้าสู่ธุรกิจนี้จะทำให้ธนาคารมีความมั่นใจในการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยให้กับลูกค้าของออริจิ้นได้มากขึ้น
อีกทั้งยังเป็นไปตามแผนธุรกิจปี 2564 ของบริษัทที่มุ่งเน้นขยายธุรกิจทั้งเชิงกว้างและเชิงลึก คือ นอกจากจากจะมีโครงการที่ยู่อาศัยใหม่ที่เตรียมเปิดการขายในปีนี้รวม 20 โครงการ มูลค่า 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะมีการขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น ทั้งในแง่ของทำเลใหม่ และโดยเฉพาะแบรนด์ใหม่ จะประกอบด้วย ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ รองรับกลุ่มสตาร์ทอัพ, บริกซ์ตัน รองรับกลุ่มนักศึกษา และกลุ่มผู้รักสัตว์เลี้ยง, แฮมตัน เป็นแบรนด์เดด คอนโดมิเนียม โดยร่วมือกับโรงแรมดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล รองรับกลุ่มซื้อเพื่อการลงทุน ที่มีสิทธิพิเศษและรับประกันผลตอบแทน และ แบรนด์ ออริจินัล จะรองรับกลุ่มที่เป็นฐานผู้สูงวัย ซึ่งมีศูนย์บริการสุขภาพอยู่ในโครงการ ประเดิมด้วยทำเลสุขุมวิท 107 ในราคา 1 ล้านบาทเศษ โดยจะมีความร่วมมือทางธุรกิจกับพันธมิตรใหม่ อาทิ สมิติเวช เปิดบริการ เทเลเมดิคัล, สวางคนิเวศ เปิด ซีเนียร์ ลีฟวิ่ง แลป เพื่อตอบโจทย์ความต้องการวิถีใหม่
นอกจากนี้ ยังเตรียมขยายกรรลงทุนสู่กลุ่มธุรกิจใหม่ๆ นำร่องด้วย ธุรกิจโลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ 62,000 ตร.ม. บางนา-ตราด กม.22 เป็นบริษัทร่วมทุนภายใต้ บริษัท ออริจิ้น เจดับเบิ้ลยูดี อินดัสเทรียล แอสเซท จำกัด และในอนาคตมีโอกาสขยายสู่ธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ หรือโซลาร์รูฟ โดยร่วมทุนกับบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงยังขยายสู่ธุรกิจบริการด้านสุขภาพ เบื้องต้นจะเน้น การให้บริการด้านความงาม ภายใต้ ชีว่า พลัส โดยจะเปิดให้บริการแห่งแรกบนพื้นที่ 200 ตร.ม. ที่เมอร์คิวรี่ วิลล์ นอกจากนี้ ยังมีกรนลงทุนศูนย์สุขภาพภายใต้โครงการออริจิ้น เวลเนส รามอินทรา มูลค่าโครงการ 600 ล้านบาท ขนาด 250 เตียง สำหรับดูแลผู้สูงอายุ ผู้ป่วยพักฟื้นหลังผ่าตัด ดูแลผู้ป่วยติดเตียง โดยทีมแพทย์และพยาบาล โดยจะเริ่มให้บริการในปี 2566
สำหรับปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายเติบโตของยอดขายที่ 2.9 หมื่นล้านบาท เติบโต 26% จาก 2.5 หมื่นล้านบาท ในปีที่แล้ว ขณะที่รายได้ในปีนี้ตั้งเป้าที่ 1.4 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% จากปีที่แล้ว โดยสัดส่วนรายได้ 90% มาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และ 10% มาจากรายได้อื่นๆ พร้อมตั้งเป้าภายใน 5 ปี รายได้จะขยับขึ้นไปที่ 2 หมื่นล้านบาท โดย 30% จะมาจากรายได้อื่น
