นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลประกอบการในไตรมาสแรก แม้จะมีปัจจัยลบจากเหตุการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกสอง จากกลุ่มแรงงานต่างด้าว ซึ่งเริ่มระบาดตั้งแต่ปลายปี 2563 ต่อเนื่องมายังต้นปี 2564 แต่บริษัทยังมียอดรับรู้รายได้จาการขายที่ 1,524 ล้านบาท ขยายตัว 21.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ ยังสามารถรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นได้สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 39.1% ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายต่อยอดขาย ปรับลดลงจาก 6% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน มาอยู่ที่ 4.5% ในไตรมาสปัจจุบัน ส่งผลให้ในไตรมาส 1 บริษัทมีกำไรสุทธิ 320 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 29.4%

อีกทั้งแม้ว่า 5-6 ปีที่ผ่านมาบริษัทจะมีการลงทุนขยายโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง แต่อัตราหนี้สินต่อทุน ณ สิ้นไตรมาสแรก ยังอยู่ในระดับ 0.64 เท่า เทียบค่าเฉลี่ยของตลาดซึ่งอยู่ที่ราว 1.5 เท่า

ในส่วนของแผนขยายธุรกิจในปีนี้ บริษัทตั้งเป้าเปิด 10-12 โครงการใหม่มูลค่ารวม 6,000-7,000 ล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นการเปิดเพื่อการทดแทนโครงการเดิมที่จะทยอยปิดโครงการไป โดยในช่วงต้นปีที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดโครงการใหม่ไปแล้วทั้งสิ้น 5 โครงการ มูลค่ารวม 3,550 ล้านบาท และเตรียมเปิดเพิ่มเติมอีก 2 โครงการ รวมเป็นมูลค่าโครงการทั้งสิ้น 4,600 ล้านบาทโดยบริษัทได้มีการประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอก 3 นี้ อย่างใกล้ชิดเพื่อดำเนินกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับสถานการณ์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน