นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการเคหะแห่งชาติ (กคช.) กล่าวในฐานะ ประธานกรรมการ บริษัท เคหะสุขประชา จำกัด (มหาชน) ซึ่ง กคช. ถือหุ้น 49% และเอกชน 51% โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาที่อยู่อาศัยให้เช่าพร้อมอาชีพ สำหรับผู้มีรายได้น้อย ไม่มีอาชีพ กลุ่มเปราะบาง ผู้พิการ และผู้สูงอายุ ว่า ล่าสุด แต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน สำหรับรองรับการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ในโครงการบ้านเช่าพร้อมอาชีพ จำนวน 100,000 หน่วยทั่วประเทศ เพื่อให้ผู้มีรายได้น้อย และกลุ่มเปราะบาง ได้เข้าถึงโอกาสในการมีที่อยู่อาศัยที่มีมาตรฐานในราคาเหมาะสม ทั้งยังสามารถพัฒนาทักษะอาชีพภายในชุมชนเพื่อสร้างรายได้ และได้ยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยอย่างยั่งยืน

โดยระยะเวลาโครงการภายใน 5 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2565 ถึง 2569 ซึ่งมีเป้าหมายการสร้างปีละ 20,000 หน่วย กำหนดวงเงินลงทุนในแต่ละปี อยู่ที่ 20,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันบริษัทได้สำรวจและจัดหาพื้นที่ที่มีความเหมาะสมทั่วประเทศแล้วในเบื้องต้นเป็นที่ดินของกคช. จำนวน 36 แปลง จำนวน 13,000 หน่วย ใน 18 จังหวัด อาทิ พระนครศรีอยุธยา ภูเก็ต เชียงใหม่ เชียงราย นครสวรรค์ ยะลา และสุราษฏร์ธานี เป็นต้น

ส่วนจำนวนหน่วยที่เหลือเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ปีละ 20,000 หน่วย ซึ่งขณะนี้ บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาที่ดินของกรมธนารักษ์ และที่ดินราชพัสดุ ซึ่งปัจจุบันเป็นเจ้าของที่ดินโรงเรียนทั่วประเทศกว่า 23,000 แห่ง แต่หลังจากเกิดโควิด-19 พบว่า มีโรงเรียนในต่างจังหวัดที่ปิดตัวไป กว่า 2,000 แห่ง และมีหลายแห่งที่อยู่ในพื้นที่กลางเมือง โดยกคช. จะเข้าไปเจรจาขอเช่าเพื่อมาดำเนินการพัฒนาโครงการ

นายทวีพงษ์ กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันโครงการ “เคหะสุขประชา” ในโครงการเคหะแห่งชาติ ได้เริ่มสร้างโครงการนำร่องบ้านเคหะสุขประชาฉลองกรุง จำนวน 302 หน่วย และ เคหะสุขประชาร่มเกล้า จำนวน 270 หน่วย โดยมีการจับสลากผู้ได้สิทธิเช่าครบทั้งสองโครงการแล้ว และจะสามารถเข้าอยู่ได้ในเร็วๆ นี้

ขณะเดียวกันในส่วนของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ที่ได้แสดงความสนใจจะเข้ามาถือหุ้นในบริษัทเคหะสุขประชาฯ นั้น โดยธอส. คงขอรอดูผลการดำเนินงานของบริษัทไปอีกระยะหนึ่งก่อนจึงจะตัดสินใจ อย่างไรก็ดี ในส่วนของเงินลงทุน บริษัทก็ยังสามารถขอเงินกู้จากธอส. ได้ก่อน

สำหรับสัดส่วนการถือหุ้นของเอกชน ใน บริษัท เคหะสุขประชาฯ อีก 51% ประกอบด้วย บริษัท ออมสุข วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด ในเครือ บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น ถือหุ้น 25%, บริษัท วินโคว์ เอเชีย จำกัด 11% ,บริษัท ไทยจัดการลองสเตย์ จำกัด 5%, บริษัท แฟคซิลิตี้ แมนเนจเมนท์ จำกัด 5%, บริษัท มหาจักร อิเล็คทริค (ประเทศไทย) จำกัด 2.5% และ บริษัท แอดวานซ์ แมททีเรียลส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ถือหุ้น 2.5%

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน