นายอุเทน โลหชิตพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทไตรมาส 2 ปี 2565 มีรายได้รวมที่ 5,389 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิที่ 430 ล้านบาท ดีขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว อีกทั้งยังสามารถรักษาสถานะทางการเงินได้ดี โดยมีอัตราหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุนที่ 0.39 เท่า
ในส่วนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มียอดขาย 6,342 ล้านบาท เติบโตจากไตรมาสก่อน 19% ส่วนยอดรายได้จากการโอนอยู่ที่ 5,101 ล้านบาท และกำไรสุทธิอยู่ที่ 527 ล้านบาท ทำให้ผลประกอบการครึ่งปีแรกปีนี้มียอดขายและรายได้รวมใกล้เคียงกันที่ 11,000 ล้านบาท รวมถึงครึ่งปีแรกมีการเปิดโครงการไปแล้ว 8 โครงการ เป็นทาวน์เฮาส์ และบ้านเดี่ยว มูลค่ารวม 3,627 ล้านบาท
ในขณะที่มียอดขายรอรับรู้รายได้รวม 21,500 ล้านบาท โดยเฉพาะจะมีคอนโดมิเนียม 7 โครงการที่เตรียมทยอยโอนในไตรมาส 3 และ 4 ปีนี้ ทำให้บริษัทยังคงยืนเป้าหมายเดิมที่วางไว้ ที่ยอดขาย 31,000 ล้านบาท และรายได้จากการโอน 33,000 ล้านบาท
สำหรับแผนการดำเนินงานครึ่งปีหลัง 2565 มีแผนเปิด 23 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 12,700 ล้านบาท แบ่งเป็นทาวน์เฮาส์ 15 โครงการ บ้านเดี่ยว 5 โครงการ และ คอนโดมิเนียม 3 โครงการ โดยการพัฒนาโครงการจะมุ่งให้ความสำคัญใน 3 แกนหลัก ได้แก่ แนวโน้มวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป เน้นการนำเทคโนโลยีที่ทำให้การอยู่อาศัยดีขึ้น แนวโน้มความใส่ใจเรื่องสุขภาพ ร่วมวิมุติ ออกแบบบ้านเพื่อให้การอยู่อาศัยที่ดี และการพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยจะมีโซลาร์เซลล์เข้ามาใช้
ล่าสุดได้ร่วมทุน 50:50 กับ บริษัท กันกุล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) จัดตั้งบริษัท ปัน นิวเอนเนอจี จำกัด เพื่อต่อยอดและสร้างจุดแข็งใหม่สำหรับโครงการของพฤกษา โดยมีเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจ จำหน่ายและติดตั้งโซลาร์รูฟ มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท ทั้งการขายติดตั้งแบบเบ็ดเสร็จ และการซื้อขายพลังงานแสงอาทิตย์ มีผลตอบแทนส่วนลดค่าไฟในระยะยาว (PPA) เพื่อช่วยลูกค้าลดเงินลงทุน และได้ใช้ไฟฟ้าที่ถูกกว่าค่าไฟฟ้าจากการไฟฟ้าฯ เบื้องต้นตั้งเป้าที่จะให้บริการลูกค้าได้กว่า 12,500 ครัวเรือน ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 126,000 ตัน ภายในระยะเวลา 5 ปี
นอกจากนี้ ยังมีแผนทดลองหมู่บ้านที่ใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ทดแทนการใช้ไฟฟ้า ไปจนถึงการขยายสู่ธุรกิจด้านเทคโนโลยีจัดเก็บพลังงานในอนาคตอีกด้วย
อย่างไรก็ดี แนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ จะพบว่ากำลังซื้อในตลาดที่อยู่อาศัยคึกคักพอสมควรในช่วงครึ่งปีแรก แต่ครึ่งปีหลังลูกค้าต้องรีบตัดสินใจ เพราะด้วยสินค้าต่างๆ แพงขึ้น รวมถึงความกังวลเรื่องดอกเบี้ยขาขึ้น เนื่องจากทุกการปรับขึ้นของดอกเบี้ย 0.25% จะลดกำลังการผ่อน 4% ขึ้นอยู่กับธนาคารจะปรับขึ้นเมื่อไร แต่เชื่อว่าหากลูกค้าเร่งตัดสินใจซื้อในปีนี้จะยังสามารถล็อกอัตราดอกเบี้ยต่ำได้
สำหรับธุรกิจโรงพยาบาลวิมุต ล่าสุดได้การรับรองคุณภาพจากสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์การมหาชน) HA ขั้นที่ 2 โดยในไตรมาส 2 ปี 2565 มีรายได้ส่วนโรงพยาบาลวิมุต พหลโยธิน 203 ล้านบาท เปิดให้บริการเบื้องต้น 100 เตียง จาก 236 เตียง มีอัตราการครอบครองเตียง 76% โดยรายได้เติบโตจากไตรมาสก่อน 26% นอกเหนือจากบริการในโรงพยาบาลที่ได้ทีมแพทย์และเครื่องมือแพทย์เฉพาะทางเพิ่มขึ้นหลายศูนย์ วิมุตยังขยายบริการไปนอกโรงพยาบาล เพื่อช่วยยกระดับการดูแลสุขภาพของคนไทย
โดยใช้เงินลงทุน 90 ล้านบาท ในการสร้างศูนย์ดูแลและฟื้นฟูสุขภาพสำหรับครอบครัวและผู้สูงอายุ ภายใต้โครงการวิมุต เวลเนส ซึ่งเป็นแห่งแรก บริเวณด้านหน้าโครงการพฤกษา อเวนิว บางนา วงแหวน ขนาด 50 เตียง ที่เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่ 12 ส.ค.นี้เป็นต้นไป โดยให้บริการในรูปแบบโรงพยาบาลกายภาพบำบัด บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป เจาะเลือด ตรวจสุขภาพ ฉีดวัคซีน กายภาพบำบัด ธาราบำบัด มีบริการดูแลผู้สูงอายุ รายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน โดยทีมแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว แพทย์โรคหัวใจ และสหสาขาวิชาชีพ 24 ชั่วโมง